ปิดร่วงยับ! ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดดิ่งเหวเฉียด 470 จุด

เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ (ตามเวลาในสหรัฐ) ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 30,932 จุด -469 จุด หรือ -1.50% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 3,811 จุด -18 จุด หรือ -0.47% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 13,192 จุด +72 จุด หรือ +0.56% ในสัปดาห์นี้ ดัชนีหุ้นทั้ง 3 แห่ง ร่วงลง -1.8%, -2.5% และ -4.9% ตามลำดับ สาเหตุจากนักลงทุนกลับมาเป็นกังวลมากขึ้นกับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้นที่ทะยานสูงขึ้นแตะ 1.6% เป็นครั้งใหม่ ก่อนจะลดลงมาแตะที่ระดับ 1.52% ทำสถิติสูงสุดในรอบ 1 ปี หรือตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2563

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 61.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -2.03 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -3.2% ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 66.88 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.75 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -1.12% ในสัปดาห์นี้ ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ปรับขึ้น 3.81% นอกจากนี้ ในเดือนกุมภาพันธ์ ยังมีราคาทะยานขึ้น 17.82% สอดรับกับราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 แห่ง ทำสถิติใกล้เคียงปิดสูงสุดในรอบ 13 เดือนหรือสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2563 ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สาเหตุจากการทำกำไรช่วงสั้นหลังจากมีราคาปิดสูงสุดในรอบ 13 เดือนตั้งแต่ต้นสัปดาห์นี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับมาแข็งค่ามากขึ้น ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้นที่ทะยานสูงขึ้นแตะ 1.6% เป็นครั้งใหม่ในรอบ 1 ปี

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,728.80 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -46.60 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -2.6% ทำสถิติทองคำตกต่ำสุดในรอบ 8 เดือน ในเดือนกุมภาพันธ์ ราคาทองคำร่วงหนัก -6.4% และยังเป็นสถิติราคาทองคำรายเดือนที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบ 4 ปี 3 เดือน หรือตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2016 เป็นต้นมา สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับมาแข็งค่ามากขึ้น ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้นที่ทะยานสูงขึ้นแตะ 1.6% เป็นครั้งใหม่ในรอบ 1 ปี และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาดีตามคาด