ปิดสลับ! ดัชนีหุ้นดาวโจนส์หล่นกว่า 50 จุด น้ำมันดิบโลกปิดขึ้นเหนือ 77 ดอลลาร์

176
0
Share:
ปิดสลับ! ดัชนี หุ้น ดาวโจนส์ หล่นกว่า 50 จุด น้ำมันดิบโลกปิดขึ้นเหนือ 77 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2023 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 33,618 จุด -55 จุด หรือ -0.17% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,138 จุด +1 จุด หรือ +0.05% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 12,256 จุด +21 จุด หรือ +0.18% ในสัปดาห์ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดลดลง -1.24%, -0.8% และ -0.07% ตามลำดับ โดยเฉพาะดัชนีหุ้นดาวโจนส์ในสัปดาห์ที่แล้ว ทำสถิติสัปดาห์ที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 5 สัปดาห์ หรือตั้งแต่มีนาคมเป็นต้นมา

สาเหตุจากนักลงทุนรอตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่สุดในสัปดาห์นี้ คือ ตัวเลขเงินเฟ้อพื้นฐานและทั่วไปของเดือนเมษายนที่จะประกาศในวันพุธนี้ ตามด้วยตัวเลขเงินเฟ้อผู้ผลิตสินค้าในเดือนเดียวกันที่จะประกาศในวันพฤหัสบดีนี้ หลังจากที่สัปดาห์ผ่านไป ยอดการจ้างงานชาวอเมริกันนอกภาคการเกษตรเดือนเมษายน พบว่า เพิ่มขึ้นถึง 253,000 คน ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 180,000 คน ส่งผลให้ใน 6 เดือนผ่านมา ตัวเลขดังกล่าวเฉลี่ยอยู่ที่เดือนละ 290,000 คน

สอดคล้องกับอัตราการว่างงานในเมษายนกลับลดต่ำลงที่ระดับ 3.4% กลับมาทำสถิติอัตราการว่างงานที่ต่ำสุดในรอบ 53 ปี หรือตั้งแต่ปี 1970 เป็นต้นมา ขณะที่ อัตราเฉลี่ยค่าจ้างแรงงานรายชั่วโมงเดือนเมษายน พบว่า เพิ่มขึ้นจาก 0.5% หากเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว พบว่าเพิ่มสูงขึ้นถึง 4.4%

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนเฝ้าจับตามองสถานการณ์การเมืองในรัฐสภาคองเกรสของสหรัฐอเมริกาที่กำลังตึงเครียดกับการพิจารณากฎหมายขยายการกู้ยืมเงินของรัฐบาลเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะรัฐบาลสหรัฐอเมริกาไม่สามารถชำระคืนหนี้สินได้ก่อนถึงวันที่ 1 มิถุนายนนี้

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 73.16 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.82 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +2.6% ทำให้ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ปิดขึ้น 2 วันทำการติดกันรวม 4.60 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ค มีราคาดำดิ่งต่ำสุดระหว่างวันในคืนวันที่ 3 พ.ค. ที่ระดับ 63.64 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ขณะที่ราคาปิดในคืนวันที่ 4 พ.ค.ทำสถิติราคาปิดต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน และเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา ยังทำสถิติราคาน้ำมันดิบดำดิ่งในแง่เปอร์เซ็นต์มากที่สุดในรอบ 17 สัปดาห์ หรือตั้งแต่มกราคมปีนี้

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 77.01 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.71 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +2.3% ทำให้ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ปิดขึ้น 2 วันทำการติดกันรวม 4.51 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ในสัปดาห์ผ่านไป เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ดำดิ่งต่ำสุดระหว่างวันที่ระดับ 71.70 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ราคาปิดในคืนวันที่ 4 พ.ค.ทำสถิติใกล้เคียงราคาปิดต่ำสุดในรอบ 1 ปี 4 เดือน หรือตั้งแต่ธันวาคม 2021 เป็นต้นมา ขณะที่เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา ไม่เพียงยังทำสถิติราคาปิดต่ำสุด 5 สัปดาห์ หรือนับตั้งแต่ 24 มีนาคมผ่านมา แต่ยังเป็นสถิติราคาน้ำมันดิบดำดิ่งในแง่เปอร์เซ็นต์มากที่สุดในรอบ 17 สัปดาห์ หรือตั้งแต่มกราคมปีนี้

ในปี 2022 ผ่านไปราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สำหรับสัปดาห์ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ และเบร็นท์ ปิดลดลง -7.1% และ -5.3% ตามลำดับ ส่งผลทำสถิติราคาน้ำมันดิบรายสัปดาห์ตกต่ำเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกันเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน 1 สัปดาห์ หรือนับตั้งแต่พฤศจิกายน 2022 เป็นต้นมา

สาเหตุจากนักลงทุนและนักวิเคราะห์วงการน้ำมันดิบโลกประเมินว่า การประชุมกลุ่มโอเปกพลัสในเดือนมิถุนายนนี้ อาจมีแนวโน้มที่จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงอีก

นักลงทุนเฝ้าติดตามและประเมินสถานการณ์การเมืองในรัฐสภาคองเกรสของสหรัฐอเมริกาที่กำลังตึงเครียดกับการพิจารณากฎหมายขยายการกู้ยืมเงินของรัฐบาลเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะรัฐบาลสหรัฐอเมริกาไม่สามารถชำระคืนหนี้สินได้ก่อนถึงวันที่ 1 มิถุนายนนี้ นอกจากนี้ รัฐมนตรีคลังสหรัฐชี้แจงว่าสหรัฐอเมริกามีเงินงบประมาณสำหรับการใช้จ่ายบริหารประเทศได้เพียงอีก 1 เดือนเท่านั้น

ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 2,021.37 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ เพิ่มขึ้น +0.2% ในสัปดาห์ผ่านไป เมื่อคืนวันที่ 4 พ.ค.ผ่านมา ราคาทองคำดังกล่าวทำสถิติราคาปิดสูงสุดตั้งแต่ 14 เมษายน หรือในรอบ 3 สัปดาห์ผ่านมา ที่สำคัญ มีราคาทองคำส่งมอบทันทีในคืนวันที่ 4 พ.ค. พุ่งขึ้นไปสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 2,072.19 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ซึ่งเฉียดราคาทองคำสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ที่ระดับ 2,072.49 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์

ขณะที่ราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ระดับ 2,033.20 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ +8.40 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ +0.4%

ก่อนหน้านี้เมื่อกลางเดือนเมษายนผ่านไป ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาปิดสูงสุดในรอบ 1 ปีที่ 2,048.71 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากวิกฤตธนาคารเอสวีบี และเอสบี ปิดกิจการและถูกควบคุมโดยทางการสหรัฐอเมริกา

ย้อนกลับไปในปี 2022 ผ่านไปเมื่อเดือนมีนาคม พบว่าราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.49 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์

ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาทองคำตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้น +1.3% ถึงแม้ว่าราคาทองคำจะตกต่ำอย่างหนาตาในคืนผ่านมา

สาเหตุจากนักลงทุนรอติดตามการรายงานภาวะเงินเฟ้อเดือนเมษายนในสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาในเดือนมิถุนายน