ปิดส่งท้ายปี 65 ขึ้นดอกเบี้ย 0.5% สุดแพงใน 15 ปี ย้ำยังไม่เชื่อเงินเฟ้อลดลงแท้จริง

185
0
Share:
ปิดส่งท้ายปี 65 ขึ้น ดอกเบี้ย 0.5% สุดแพงใน 15 ปี ย้ำยังไม่เชื่อ เงินเฟ้อ ลดลงแท้จริง

ประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด นายเจอโรม พาวเวลล์ กล่าวแถลงว่า เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.5% ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยดังกล่าวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 4.25-4.50% ในขณะที่ เฟดยังคงต้องดำเนินการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นต่อไปอีกมากเพื่อแก้ไขภาวะเงินเฟ้อให้กลับเข้าสู่ที่ระดับ 2% ตามเป้าหมาย ดังนั้น เฟดจะใช้เครื่องมือต่างๆ ในการแก้ปัญหาเงินเฟ้อ รวมถึงการตัดสินใจในแต่ละครั้งของการประชุมล้วนขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเงินและเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา

การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟดในคืนผ่านมา ซึ่งเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายในปีนี้ ทำสถิติปรับขึ้น 7 ครั้งติดต่อกันภายใน 10 เดือน หรือนับตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมา นอกจากนี้ ยังเป็นการชะลอขึ้นดอกเบี้ยดังกล่าวครั้งแรกในรอบ 10 เดือนอีกด้วย อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ขึ้นมาอยู่ระหว่าง 4.25-4.50% นั้น ทำสถิติสูงสุดในรอบ 15 ปี หรือนับตั้งแต่วิกฤตเศรษฐกิจสถาบันการเงินธนาคารเลย์แมน บราเธอร์สล่มสลายในสหรัฐอเมริกา ในจำนวนการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นถึง 7 ครั้ง ประกอบด้วย ขึ้น 0.75% ถึง 4 ครั้ง ซึ่งทำสถิติการขึ้นดอกเบี้ยที่รุนแรงที่สุดในรอบ 42 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 1980 ถัดมาเฟดขึ้น 0.5% มี 2 ครั้ง และขึ้น 0.25% มีเพียง 1 ครั้ง

ประธานเฟด กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน แม้จะชี้ให้เห็นว่าตัวเลขลดลง ซึ่งเป็นที่น่ายินดีก็ตาม แต่ยังไม่มีสัญญาณชัดเจนใดๆ รวมถึงเฟดยังต้องมีหลักฐานที่แท้จริงมากกว่านี้ จะทำให้มั่นใจได้ว่าอัตราเงินเฟ้อสหรัฐอเมริกาได้เข้าสู่ภาวะลดลงอย่างแท้จริง ดังนั้น เฟดจึงต้องใช้นโยบายควบคุมปัญหาเงินเฟ้อในระยะยาวต่อไป

ท่ามกลางราคาอสังหาริมทรัพย์ที่คิดเป็น 1 ใน 3 ของดัชนีผู้บริโภคขาวอเมริกันยังคงสูงขึ้น แต่เริ่มเห็นสัญญาณค่าเช่าอพาร์ตเมนต์และราคาบ้านเริ่มลดลงนั้น แต่ความสำคัญอยู่ที่ค่าใช้จ่ายในภาคบริการที่ยังสูงมาก ค่าจ้างแรงงานในสหรัฐอเมริกาสูงขึ้นชัดเจน ซึ่งพบเห็นได้ในธุรกิจภาคบริการ เช่น โรงแรมและร้านอาหารที่เผชิญปัญหาแรงงานขาดแคลน ทำให้ต้องหาแรงงานเพิ่มขึ้นด้วยการจ่ายค่าจ้างแรงงานรายชั่วโมงเพิ่มสูงขึ้นมาก ส่งผลค่าจ้างสูงขึ้น 5-6% จุดนี้ต่างหากที่กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เงินเฟ้อสูงต่อเนื่อง

ทั้งนี้ นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ยังกล่าวว่า สภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาชะลอตัวจากปีที่แล้ว ซึ่งยังต้องเผชิญกับตลาดแรงงานตึงตัว ด้านตัวเลขคนว่างงานในสหรัฐอเมริกาจะสูงขึ้นในปี 2023 และปี 2024 โดยมีอัตราการว่างงานเพิ่มเป็น 4.6% ในปี 2023 จากปีนี้อัตราการว่างงานจะอยู่ที่ 3.7% เฟดยอมรับว่า ภาวะดังกล่าวสะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาที่ถดถอย