ปีแห่งขาลง! ปี 2022 บิทคอยน์ดิ่งแรง -65% ปิดเหลือกว่า 16,500 ดอลลาร์

235
0
Share:
ปีแห่งขาลง! ปี 2022 บิทคอยน์ ดิ่งแรง -65% ปิดเหลือกว่า 16,500 ดอลลาร์

ตลาดซื้อขายเงินคริปโทเคอร์เรนซี นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2565 เปิดเผยว่า สิ้นสุดวันสุดท้ายของปี 2022 ค่าเงินบิทคอยน์ปิดมาที่ระดับ 16,531 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 578,585 บาทต่อบิทคอยน์ ส่งผลให้ทั้งปี 2022 เงินบิทคอยน์ดำดิ่งหนักถึง -65% และให้ผลตอบแทนเป็นลบเป็นครั้งแรกใน 3 ปีผ่านมา นอกจากนี้ ยังทำให้ผลตอบแทนในปี 2021 กลายเป็นศูนย์อีกด้วย ที่สำคัญยังเป็นผลตอบแทนรายปีที่เลวร้ายครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์เงินบิทคอยน์ด้วย

สำหรับผลตอบแทนย้อนหลังกลับไปตั้งแต่ปี 2010 มาถึงปี 2022 มีดังนี้

2010: 0.3 ดอลลาร์(+9,900%)
2011: 4.70 ดอลลาร์(+1,473%)
2012: 13.50 ดอลลาร์(+186%)
2013: 758 ดอลลาร์(+5,507%)
2014: 320 ดอลลาร์(-58%)
2015: 430 ดอลลาร์(+35%)
2016: 698 ดอลลาร์(+125%)
2017: 13,860 ดอลลาร์(+1,331%)
2018: 3,689 ดอลลาร์(-73%)
2019: 7,184 ดอลลาร์(+95%)
2020: 28,775 ดอลลาร์(+301%)
2021: 49,902 ดอลลาร์(+66%)
2022: 16,531 ดอลลาร์(-65%)

เป็นที่ทราบกันดีว่าตลอดปี 2022 ตลาดเงินบิทคอยน์กลายเป็นปีที่เลวร้ายปีหนึ่งนับตั้งแต่เกิดค่าเงินบิทคอยน์ขึ้นมา โดยมีปัจจัยลบมาจากธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอย่างรวดเร็ว และรุนแรงตลอดทั้งปีนี้ โดยอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวปิดสูงสุดในรอบ 14 ปีในปีนี้ที่ระดับ 4.25% รวมปรับขึ้น 7 ครั้งตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงธันวาคมผ่านมา

ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด เร่งขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นด้วยความเร็วและรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 42 ปี หรือนับตั้งแต่ยุคทศวรรษ 1980 เป็นต้นมา ส่งผลอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวทะยานสูงขึ้นถึง 4.25% ปิดสูงในรอบ 14 ปี นอกจากนี้ วิกฤตเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกาในปีนี้ที่ทำสถิติสูงสุดในรอบ 41 ปี ส่งผลให้เงินเฟ้อสหรัฐอเมริกาอยู่สูงกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อของเฟดถึงกว่า 3 เท่า รวมถึงความเสี่ยงในการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปี 2023 ทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาพุ่งสูงขึ้นในรอบหลายปี กดดันนักลงทุนถอนการลงทุนออกจากตลาดสินทรัพย์เสี่ยงสูงมากอย่างเงินคริปโทเคอร์เรนซี

นอกจากนี้ ธุรกิจในตลาดเงินคริปโทเคอร์เรนซีเกิดภาวะล่มสลายและล้มละลายเป็นลูกโซ่ในวงกว้างจากสาเหตุสภาพคล่องในตลาดเงินคริปโทเคอร์เรนซีตึงตัวและขาดหายอย่างรุนแรงซึ่งเป็นผลกระทบต่อจากปัจจัยในภาพรวมข้างบน ส่งผลให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นในในหลายสกุลเงินโทเคนของแต่ละแพลตฟอร์มชื่อดัง เริ่มจากค่าเงินยูเอสดีสเตเบิลที่ล่มสลาย แพลตฟอร์มเทรดเงินคริปโทเคอร์เรนซีขาดสภาพคล่องและถูกตรวจสอบพบว่าฝ่ายบริหารนำเงินนักลงทุนไปใช้ในทางผิดวัตถุประสงค์ชัดเจน ทำให้เอฟทีเอ็กซ์แพลตฟอร์มใหญ่อันดับ 2 ของโลกล้มละลาย เจ้าของและมหาเศรษฐีหนุ่มวัยกว่า 30 ปีของเอฟทีเอ็กซ์ถูกจับและดำเนินคดีอาญาในสหรัฐอเมริกา เป็นต้น

ด้านมูลค่าตลาดเงินคริปโทเคอร์เรนซีตลอดทั้งปี 2022 พบว่า เสียหายมากถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 70 ล้านล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทในวงการเงินคริปโทเคอร์เรนซีทั่วโลกล้วนลดต้นทุนครั้งใหญ่ด้วยการปลดพนักงานออกรวมกันในปีผ่านไปกว่า 50,000 รายขึ้นไป