ผลงานตก! ผลประกอบการครึ่งปีบริษัทในตลาดหุ้น MAI ย่ำแย่ กำไรรวมดิ่งเหวกว่า -70%

559
0
Share:

นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) หรือ ตลาดหุ้น  mai เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียนใน mai จำนวน 200 บริษัท คิดเป็น 97% จากทั้งหมด 207 บริษัท (ไม่รวมบริษัทในกลุ่มที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน หรือ NC และบริษัทที่ปิดงบไม่ตรงงวด) นำส่งผลการดำเนินงาน โดยงวดสะสม 6 เดือน ปี 2566 พบ บจ. รายงานกำไรสุทธิจำนวน 135 บริษัท คิดเป็น 68% ของบริษัทที่นำส่งงบการเงินทั้งหมด

ผลการดำเนินงานครึ่งแรกปี 2566 ของ บจ. mai เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มียอดขายรวม 95,183 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.3% ต้นทุนขาย 71,014 ล้านบาท ลดลง 0.3% โดย บจ. สามารถควบคุมต้นทุนได้ดี ทำให้อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) เพิ่มขึ้นจาก 24.2% เป็น 25.4% อย่างไรก็ดี เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มสูงขึ้น 14.5% ส่งผลให้กำไรจากการดำเนินงานลดลง 14.1% อยู่ที่ 5,550 ล้านบาท

โดย บจ. มีกำไรสุทธิรวม 1,503 ล้านบาท ลดลง 70.9% เนื่องจากครึ่งแรกปี 2566 มีรายการบันทึกค่าใช้จ่ายขาดทุนจากรายการพิเศษและการตั้งด้อยค่าของ บจ. แห่งหนึ่ง มูลค่า 1,999 ล้านบาท ขณะที่งวดเดียวกันปีก่อนหน้า มีการบันทึกกำไรจากการขายโรงไฟฟ้าของ บจ. แห่งหนึ่ง มูลค่ารวม 1,423 ล้านบาท หากไม่นับรวมรายการพิเศษขนาดใหญ่ดังกล่าว ครึ่งแรกปี 2566 ของ บจ. mai มีกำไรสุทธิลดลง 26.7%

 ด้านผลประกอบการไตรมาส 2/2566 บจ. มียอดขายรวม 47,028 ล้านบาท ลดลง 2.0% ต้นทุนขาย 35,173 ลดลง 2.9% ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจาก 24.5% เป็น 25.2% อย่างไรก็ดี การที่ บจ. มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มสูงขึ้นถึง 15.6% ส่งผลให้กำไรจากการดำเนินงานลดลง 35.1% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

 ครึ่งแรกปี 2566 แม้ บจ. ส่วนใหญ่มียอดขายเพิ่มขึ้น แต่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับคืนสู่ภาวะปกติและมีการปรับเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายพนักงานทั้งอัตราค่าจ้างและกำลังคน ส่งผลให้กำไรจากการดำเนินงานลดลง อย่างไรก็ดี พบ 3 กลุ่มอุตสาหกรรมที่ยังคงเติบโตทั้งยอดขาย กำไรจากการดำเนินงาน และกำไรสุทธิ ได้แก่ กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร กลุ่มเทคโนโลยี และกลุ่มธุรกิจการเงินนายประพันธ์กล่าว

 ในส่วนของฐานะทางการเงิน บจ. mai มีสินทรัพย์รวม 325,293 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.0% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E ratio) อยู่ที่ 0.80 เท่า ลดลงจากปี 2565 ที่เท่ากับ 0.82 เท่า