ผันผวนมาก! ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ดิ่งลึกสุดกว่า 400 จุด ก่อนขึ้นปิดเพียง 10 จุด

225
0
Share:
ผันผวนมาก! ดัชนี หุ้น ดาวโจนส์ ดิ่งลึกสุดกว่า 400 จุด ก่อนขึ้นปิดเพียง 10 จุด

เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2566 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 33,743 จุด +9 จุด หรือ +0.03% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,016 จุด -0.73 จุด หรือ -0.02% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 11,313 จุด -20 จุด หรือ -0.18%

สาเหตุจากนักลงทุนยังคงเดิมพันกับผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ของบริษัทจดทะเบียนในหุ้นกลุ่มบลูชิปของตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาที่ทยอยประกาศออกมาต่อเนื่อง ในทางตรงกันข้าม หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีกลับถูกเทขายเพื่อทำกำไรช่วงสั้น หลังจากมีราคาเพิ่มขึ้นมาอย่างคึกคักถึง 2 วันทำการติดต่อกัน นอกจากนี้ ตัวชี้วัดโอกาสการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือ CME พบว่านักลงทุนให้น้ำหนักลดลงมาเหลือ 96% ที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยดังกล่าวเพียง 0.25% ในการประชุมนัดแรกของปีนี้ในวันที่ 31 มกราคมถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 80.15 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.02 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน ทำให้ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ปิดเพิ่มขึ้น 5 วันทำการติดต่อกัน ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือนครึ่ง หรือตั้งแต่ตุลาคม 2022

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 86.12 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.01 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ในปีผ่านไปราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สาเหตุจากปริมาณสำรองน้ำมันดิบรายสัปดาห์ในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพียง 533,000 บาร์เรล จากที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 1 ล้านบาร์เรล ท่ามกลางความกังวลในสถานการณ์เศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาที่ยังชะลอตัว ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาในเดือนมกราคมยังคงสะท้อนภาวะกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั้งภาคการผลิต และภาคบริการที่อ่อนแอต่อเนื่อง นับเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือนกว่า หรือตั้งแต่กันยายนปี 2022 เช่น ดัชนีภาคการผลิตที่ระดับ 46.6 จุด ซึ่งต่ำกว่าระดับ 50 จุดที่เป็นสัญญาณฟื้นตัว สอดคล้องกับตัวเลขกิจกรรมทางเศรษฐกิจอังกฤษของภาคเอกชนตกต่ำอย่างรวดเร็วที่สุดในรอบ 2 ปี

รอยเตอร์ส โพลล์ ยังเปิดเผยว่าภาวะเศรษฐกิจปีนี้ในตะวันออกกลางโดยเฉพาะประเทศทั้ง 6 ชาติในกลุ่มอ่าว หรือ GCC จะขยายตัวเพียงครึ่งหนึ่งของปี 2022 เนื่องจากรายได้จากการขายน้ำมันดิบลดลงจากผลกระทบของเศรษฐกิจโลกชะลอตัว นอกจากนี้ การประชุมของกลุ่มโอเปกพลัสนัดแรกของปีนี้ ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ คาดว่าจะคงมติเดิมในด้านกำลังการผลิตน้ำมันดิบที่ลดลงราววันละ 2 ล้านบาร์เรล

ราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,942.60 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +7.20 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ +0.4% ทำสถิติราคาทองคำปิดสูงสุดในรอบ 9 เดือน หรือนับตั้งแต่เมษายน ปี 2022 เป็นต้นมา ขณะที่ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ระดับ 1,944.86 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ +10.04 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ +0.4%

ในปีผ่านไปเมื่อเดือนมีนาคม 2565 ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงอ่อนค่าลง 0.3% สอดคล้องกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 10 ปี ลดลงจากระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนผ่านมา นักลงทุนคาดหวังที่จะเห็นการประกาศตัวเองเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาที่มีสัญญาณชะลอตัวลง ได้แก่ อัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือจีดีพีไตรมาส 4 ของสหรัฐอเมริกาที่จะประกาศในคืนวันพรุ่งนี้ เพื่อเป็นแรงกดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาลดอัคราดอกเบี้ยระยะสั้นอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ตัวชี้วัดโอกาสการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือ CME พบว่านักลงทุนให้น้ำหนักลดลงมาอยู่ที่ 96% ที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยดังกล่าวเพียง 0.25% ในการประชุมนัดแรกของปีนี้ในวันที่ 31 มกราคมถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้