ผีน้อยไทยในเกาหลีใต้แห่ขอกลับไทยกว่า 5,000 คน

1144
0
Share:

นายเชิดเกียรติ อัตถากร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงมาตรการของเกาหลีใต้และการดำเนินการของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล เกี่ยวกับการดูแลคนไทยในเกาหลีใต้ จากกรณีรายงานข่าวคนไทยที่พำนักเกินวีซ่าในเกาหลีใต้เข้ารายงานตัวกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง นครแดกู เพื่อแสดงความประสงค์เดินทางกลับไทย สาเหตุจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่า ปัจจุบัน ทางการเกาหลีใต้มีมาตรการให้ชาวต่างชาติที่พำนักอยู่เกินวีซ่า แสดงความสมัครใจออกนอกประเทศได้ถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2563 โดยไม่ต้องเสียค่าปรับ และไม่มีโทษห้ามกลับเข้าเกาหลีใต้
.
ซึ่งกรมการกงสุลได้เคยประชาสัมพันธ์ก่อนหน้านี้แล้ว และในขณะนี้ เกาหลีใต้ยังไม่มีมาตรการปิดเมือง หรือจำกัดการเดินทางเข้า-ออกพื้นที่มีการแพร่ระบาด โดยคนไทยในเกาหลีใต้ที่ประสงค์จะเดินทางกลับไทย สามารถเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเอกสารการจองตั๋วเครื่องบิน ไปติดต่อกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองในเขตที่พักอาศัยอยู่ได้ทันที
.
โดยทางการเกาหลีใต้จะใช้เวลาประมาณ 3-15 วัน ในการออกเอกสารยืนยันการออกนอกประเทศ ทางการเกาหลีใต้ยืนยันว่า ผู้ป่วยโควิด-19 ทุกรายจะได้รับการรักษาตามมาตรฐานในสถานพยาบาลที่ทางรัฐกำหนด และรัฐบาลเกาหลีใต้จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่พำนักในเกาหลีใต้อย่างถูกกฎหมายหรือไม่ นอกจากนี้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีใต้ยืนยันว่า ผู้ป่วยทุกคนจะไม่ถูกจับกุมและไม่ถูกส่งตัวกลับหากไม่สมัครใจ
.
ส่วนทางสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้สอบถามสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้รับทราบว่า นับแต่เดือน ธ.ค. 2562 จนถึง 1 มี.ค. 2563 มีคนไทยไปรายงานตัวแล้วกว่า 5,000 คน ส่วนเฉพาะที่นครแดกู สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้ข้อมูลว่ามีคนไทยรายงานตัวรวมจำนวน 136 คน
.
สำหรับคนไทยที่เดินทางกลับประเทศไทยแล้ว จะต้องผ่านมาตรการคัดกรองของทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ และกักตัวเพื่อดูอาการเป็นระยะเวลา 14 วันตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข
.
อย่างไรก็ตามตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ได้ตั้งกลุ่มไลน์เพื่อติดต่อประสานงาน แจ้งข่าวสาร สอบถามความเป็นอยู่ รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับช่องทางขอรับคำปรึกษาด้านสุขภาพกับหน่วยงานของเกาหลีใต้ โดยในกลุ่มไลน์ดังกล่าว มีคนไทยในพื้นที่ระบาดสูง จ. คยองซัง-เหนือ (รวมนครแดกู) เข้าร่วมประมาณ 270 คน และมีผู้เชี่ยวชาญจากกระทรวงสาธารณสุขของไทยให้คำแนะนำในกลุ่มดังกล่าวด้วย
.
นอกจากนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ยังได้ติดตามสถานการณ์ความเป็นอยู่ของชาวไทยในพื้นที่ดังกล่าวกับตัวแทนเครือข่ายคนไทยอย่างใกล้ชิด ซึ่งโดยรวมคนไทยยังคงใช้ชีวิตตามแนวทางของรัฐบาลเกาหลีใต้ โดยหลีกเลี่ยงที่ชุมชนและการเดินทางโดยไม่จำเป็น และสถานเอกอัครราชทูตฯ กำลังดำเนินการจัดส่งหน้ากากอนามัยให้กับคนไทยในพื้นที่ประสบปัญหาในการหาซื้อด้วย