ผู้ประกอบการอสังหาฯ ดันไม่ขึ้นแบงก์ชาติไม่ผ่อนผัน LTV ชี้เป็นตัวที่กระตุ้นตลาดได้มากที่สุด

114
0
Share:
ผู้ประกอบการ อสังหาริมทรัพย์ ดันไม่ขึ้นแบงก์ชาติไม่ผ่อนผัน LTV ชี้เป็นตัวที่กระตุ้นตลาดได้มากที่สุด

นายพีระพงศ์ จรูญเอก นายกสมาคมอาคารชุดไทย เปิดเผยว่า คาดว่าภายในไตรมาส 2 จะมีข่าวดี 3-4 เรื่อง ใน 8 ข้อเสนอที่ได้ยื่นต่อรัฐ ซึ่งเป็นเรื่องไม่ต้องขออนุมัติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เช่น เกณฑ์บีโอไอในการส่งเสริมผู้ประกอบการพัฒนาบ้านและคอนโดมิเนียมในราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาททั่วประเทศ ดอกเบี้ยอัตราพิเศษหรือซอฟต์โลน 3% เป็นเวลา 5 ปีแรก จากสถาบันการเงินของรัฐ เพื่อรองรับกลุ่มคนมีรายได้น้อยและปานกลาง เป็นต้น ส่วนที่เหลือคาดจะออกมาช่วงในไตรมาส4 เพราะมีขั้นตอนที่ต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. แต่ที่ไม่ได้แล้ว คือ มาตรการLTV ที่ขอยกเลิกมาตรการ LTV ถึงปี 2568 ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีหนังสือตอบกลับมาแล้วว่าไม่ผ่อนผันให้

นายพีระพงศ์ กล่าวว่าผิดหวังเรื่องมาตรการLTV เพราะเป็นตัวที่กระตุ้นตลาดได้มากที่สุด ถึงแม้จะไม่มีผลกระทบต่อตลาดเพิ่ม แต่ทำให้ตลาดไม่ดีตามที่คาดหวัง เพราะทำให้กำลังซื้อในตลาดหายไปเยอะ ทำให้ไม่เป็นผลในเชิงบวกต่อตลาดโดยรวม โดยเฉพาะผู้ต้องการซื้อบ้านหลังที่ 2 และ 3 ทำให้ซื้อบ้านยากขึ้น สวนทางกับที่รัฐต้องการจะใช้ภาคธุรกิจอสังหาฯช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและจีดีพีของประเทศ ส่วนภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ขอลดหย่อน 50% ซึ่งในปี 2567 คงไม่ได้ แต่จะตื๊อขอรัฐบาลต่อ เดิมคาดหวังมาตรการบางส่วนจะเสร็จก่อนไตรมาสแรกเพื่อกระตุ้นตลาด ซึ่งขณะนี้ดอกเบี้ยแพง กู้ไม่ผ่านสูง ทำให้ตลาดยังทรงๆ แต่ยังคาดว่าปีนี้ตลาดจะโต 10% ได้ปัจจัยหนุนจากการท่องเที่ยวและวีซ่าฟรี รวมถึงขึ้นอยู่กับมาตรการที่จะออกมาว่าเร็วหรือช้าด้วย

อย่างไรก็ตาม หลังรัฐบาลมีนโยบายวีซ่าฟรีถาวรกับจีน ทำให้ตลาดคอนโดมิเนียมกลับมาคึกคักขึ้นบ้าง เพราะจีนเป็นลูกค้าหลัก และซื้อทุกที่ กรุงเทพ ภูเก็ต พัทยา แต่มีลูกค้าจากประเทศใหม่เข้ามาเพิ่ม เช่น เมียนมา ไต้หวัน รัสเซีย เพราะผลจากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์หรือสงครามระหว่างประเทศเกิดขึ้น ทำให้ไทยเป็นประเทศมีความเป็นกลางสูง จึงหนีร้อนมาพึ่งเย็น เช่น รัสเซีย ยูเครนมาซื้ออสังหาที่ภูเก็ตอยู่จำนวนมาก ล่าสุดระลอกใหม่จะเป็นของกลุ่มไต้หวันที่จะเข้ามาซื้ออสังหาในไทยอยู่อาศัยมากขึ้น เป็นไปตามกระแสการเมืองโลก ดังนั้นแรงซื้อจากต่างชาติจึงเป็นปัจจัยบวกที่สำคัญต่อตลาดอสังหาเมืองไทย

ด้านนายอิสระ บุญยัง ประธานคณะกรรมการสมาคมการค้ากลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ออกแบบและก่อสร้าง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์อยู่ระหว่างรอการอนุมัติมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐ หลัง 7 สมาคมด้านอสังหาริมทรัพย์เข้ายื่น 8 ข้อเสนอให้กับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการระทรวงการคลังเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา โดยคาดว่าจาก 8 ข้อเสนอ จะได้รับการอนุมัติจากรัฐ เพื่อออกเป็นมาตรการกระตุ้นอสังหาฯในไตรมาส2 นี้ เช่น ขยายเพดานราคาที่อยู่อาศัยลดค่าธรรมเนียมการโอนเหลือ 1% และค่าจดจำนองเหลือ 0.01% ให้มากกว่า 3 ล้านบาท สนับสนุนการมีบ้านหลังแรกของผู้มีรายได้น้อยหรือปานกลาง โดยพิจารณาดอกเบี้ยอัตราพิเศษหรือซอฟต์โลน 3% เป็นเวลา 5 ปีแรก จากสถาบันการเงินของรัฐ และสนับสนุนโครงการบ้านบีโอไอราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท ลดขนาดที่ดินของโครงการจัดสรรให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ ขนาดครอบครัว ราคาที่ดิน ค่าก่อสร้าง โดยลดขนาดบ้านเดี่ยวจากเนื้อที่ไม่ต่ำกว่า 50 ตารางวา เป็นไม่ต่ำกว่า 35 ตารางวา เป็นต้น รวมถึงบ้านดีมีดาวน์ที่ขอให้สนับสนุนเงินดาวน์ให้ผู้ซื้อบ้านหลักแรก เป็นต้น