ผู้ว่าฯสงขลาประกาศขอความร่วมมืองดออกนอกเคหสถาน ตั้งแต่เวลา 22.00 น. จนถึง 04.00 น. และยังสั่งปิดอีก 32 กิจการ

584
0
Share:

นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้ออกประกาศขอความร่วมมือประชาชนงดออกนอกเคหสถาน ตั้งแต่เวลา 22.00 น. จนถึง 04.00 น. เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจำนวนมาก และกระจายไปยังหลายพื้นที่ จากการติดตามและการสอบสวนโรคพบว่ามีการระบาดเป็น กลุ่มก้อน ซึ่งเกิดจากการสัมผัสกลุ่มเสี่ยงในสถานประกอบการต่างๆ การเข้าร่วมกิจกรรมที่มีการร่วมตัวของคนจำนวนมาก การเลี้ยงสังสรรค์ และการเดินทางของประชาชนจากพื้นที่เสี่ยง

.

จึงได้ออกประกาศขอความร่วมมือประชาชนงดออกนอกเคหสถานหรือที่พำนัก ตั้งแต่เวลา 22.00 นาฬิกา จนถึง 04.00 นาฬิกา ของวันรุ่งขึ้น เว้นแต่เพื่อประโยชน์ในการรักษาพยาบาล การขนส่งสินค้าที่จำเป็น สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าทางการเกษตร ปศุสัตว์ อาหารสัตว์ แก๊สหุงตัม น้ำมันเชื้อเพลิง วัสดุสิ่งพิมพ์ วัสดูก่อสร้าง เครื่องจักรก่อสร้าง การไปรษณีย์ อุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ กู้ชีพ กู้ภัยฉุกเฉิน รถพยาบาล รถขนส่งเงินของธนาคาร สถาบันการเงิน การประกอบอาชีพเป็นปกติ พนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งอยู่ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ ผู้เดินทางโตยอากาศยานหรือรถโดยสารสาธารณะอื่นเมื่อเตินทางถึงแล้วให้กลับที่พักทันที หรือผู้มีเหตุจำเป็นอื่นอันหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน 2564 จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2564

.

ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสงขลายังได้ออกคำสั่งเรื่อง มาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 จังหวัดสงลา (เพิ่มเติม)

1. การปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพรโรค ดังต่อไปนี้
// ปิดสถานที่ชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์โรคจะคลี่คลาย ดังนี้
1. สนามชนโค และสนามซ้อมโค
2. สนามชนไก่ และสนามซ้อมไก่ชน
3. สนามกัดปลา
4. สนามแข่งขันนก และสนามซ้อมนก

.

// ปิดสถานที่ชั่วคราวเป็นเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2564 จนถึงวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 ดังนี้
1. สถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง คาราโอเกะ สถานประกอบกิจการอาบน้ำ สถานประกอบกิจการอาบอบนวด หรือ
ที่มีลักษณะคล้ายกัน
2. ร้านเกม ร้านอินเตอร์เน็ต
3.  สวนสนุก สวนน้ำ
4. โต๊ะสนุกเกอร์ โต๊ะบิลเลียด
5.  โรงมหรสพ โรงภาพยนตร์ โรงละคร
6.  สวนสัตว์ หรือสถานที่จัดแสดงสัตว์
7. สถานที่เล่นสเก็ต หรือโรลเลอร์เบรด หรือการเล่นอื่นๆ ในทำนองเดียวกันในสถานที่ปิด หรือสถานที่โล่งในลักษณะเป็นการรวมกลุ่มกันเล่น
8. สถานที่เล่นโบว์ลิ่ง หรือตู้เกม
9. สระว่ายน้ำสาธารณะ รวมถึงสระว่ายน้ำของหมู่บ้านหรืออาคารชุดพักอาศัย
10. สถานที่ออกกำลังกายฟิตเนส เฉพาะที่อยู่ในอาคารสถานที่ปิด
11. สถานที่จัดนิทรรศการ ศูนย์แสดงสินค้า และศูนย์ประชุม
12. พิพิธภัณฑ์ พิพิธภัณฑ์สถาน พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น รวมถึงพิพิธภัณฑ์ในทำนองเดียวกัน ศูนย์การเรียนรู้ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา อุทยานวิทยาศาสตร์ 13. ศูนย์วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม แหล่งประวัติศาสตร์ โบราณสถาน และหอศิลป์
14. สถานรับเลี้ยงเด็ก (ยกเว้นสถานรับเลี้ยงเด็กในสถานพยาบาล และที่มีการรับตัวไว้พักค้างคืนเป็นปกติธุระ) ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เด็กก่อนวัยเรียน
15. สถานผู้ดูแลผู้สูงอายุ (ยกเว้นที่มีการรับตัวไว้พักค้างคืนเป็นปกติธุระ)
16. สนามมวย และโรงเรียนสอนมวย
17. โรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ (ยิม)
18. สถานที่สัก หรือเจาะผิวหนัง หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย
19. สถาบันลีลาศ หรือการสอนลีลาศ
20. ศูนย์พระเครื่อง พระบูชา และสนามพระเครื่อง พระบูชา
21. สถานที่ให้บริการควบคุมน้ำหนัก คลินิกเสริมความงาม สถานเสริมความงาม และคลินิกเวชกรรมเสริมความงาม
22. สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ (ร้านสปา ร้านนวดเพื่อสุขภาพ ร้านนวดเพื่อเสริมความงาม) สถานประกอบการนวดแผนไทย นวดฝ่าเท้า)
23. สถานที่แสดงมหรสพ สถานที่มีการแสดง หรือการละเล่นสาธารณะ
24. ร้านเสริมสวย แต่งผมหรือตัดผม เปิดได้เฉพาะกิจกรรม สระ ตัด ซอย แต่งผม และต้องไม่มีผู้นั่งรอในร้าน โดยให้ผู้บริการและผู้รับบริการสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย ตลอดเวลาที่ทำกิจกรรม รับลูกค้าได้ครั้งละไม่เกิน ๒ คน ทั้งนี้ให้จัดเก้าอี้นั่งตัดผมให้มีระยะห่างกันไม่น้อยกว่า 1 เมตร
25. สนามเด็กเล่น เครื่องเล่นสำหรับเด็ก
26.  สวนสาธารณะ สวนพฤกษศาสตร์ และสวนดอกไม้
27. สนามกีฬาทุกประเภททั้งในร่มและกลางแจ้ง สนามกอล์ฟ สนามฝึกซ้อมกอล์ฟ สระน้ำเพื่อการเล่นกีฬาหรือกิจกรรมทางน้ำในบึง เว้นแต่ใช้เพื่อเป็นที่เอกเทศตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ ใช้เป็นสถานที่ให้ความช่วยเหลือ สงเคราะห์แก่บุคคล และเป็นการใช้สถานที่ของทางราชการ
28. สถานที่จัดกิจกรรมถนนคนเดิน

.
2. กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่ที่จำเป็นอย่างเร่งด่วน สำหรับสถานที่ กิจการ หรือกิจกรรม เพื่อให้สามารถเปิดดำเนินการได้ภายใต้เงื่อนไข เงื่อนเวลา การจัดระบบและระเบียบ รวมทั้งมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด ดังต่อไปนี้
2.1 ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนีตี้มอลล์ หรือสถานประกอบการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน ให้เปิดดำเนินการได้ตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น.โดยให้จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการและงดเว้นการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ยกเว้น ส่วนที่เป็นตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกม และสวนสนุก งดการให้บริการ
2.2 ร้านสะดวกซื้อ ชูเปอร์มาร์เกต(ทั้งที่ตั้งอยู่ในและนอกห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ให้เปิดดำเนินการได้ตั้งแต่เวลา 0๕.00 – ๒๑.0๐ นาฬิกา
2.3 การจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ให้เปิดจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มได้ จนถึงเวลา 20.00 น. กรณีจัดให้มีการนั่งรับประทานที่ร้าน ให้ผู้ประกอบการจัดให้มีที่นั่งแยกเป็นสัดส่วน มีระยะห่างระหว่างโต๊ะไม่น้อยกว่า 1 เมตร ระยะห่างระหว่างผู้รับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มในโต๊ะเดียวกัน ห่างกันไม่น้อยกว่า 1 เมตร ทั้งนี้ให้ทำเครื่องหมายเว้นระยะการเข้าคิวซื้ออาหารหรือเครื่องดื่ม การชำระค่าบริการ อย่างน้อย 1 เมตร รวมทั้งควบคุมผู้เข้าใช้บริการไม่ให้มีความแออัด โดยคำนวณเนื้อที่ผู้เข้าใช้บริการไม่น้อยกว่า 4 ตารางเมตร ต่อ 1 คน
2.4 ห้ามการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ในร้านอาหารหรือสถานที่ จำหน่ายสุรา ตลอดเวลา
2.5 ตลาดนัดกลางคืน ตลาดโต้รุ่ง ให้เปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติของสถานที่นั่นๆ แต่ไม่เกิน 21.00 น.

.
3. การจัดกิจกรรมทางสังคม
3.1 ห้ามไม่ให้มีการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ งานรื่นเริงต่างๆ ทุกประเภท
3.2 ห้ามไม่ให้มีการจัดกิจกรรมที่มีการรวมตัวของคนจำนวนเกินกว่า 20 คน หากเกินกว่า 20 คน ให้ขออนุญาตนายอำเภอท้องที่ ซึ่งต้องมีมาตรการป้องกันโรคที่เพียงพอเพื่อลดโอกาสเสี่ยงจากการติดเชื้อ ยกเว้นการจัดกิจกรรมของส่วนราชการ เช่น การจัดประชุม งานรัฐพิธี ซึ่งมีผู้เข้าร่วมไม่เกิน 50 คน และได้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคโดยเคร่งครัด
3.3 การปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนา ให้เป็นไปตามข้อสั่งการ มติองค์กรปกครองของศาสนานั้นๆ

.

ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้ มีความผิดตามมาตรา 51 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท มีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญ
พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปีและปรับไม่เกิน 40,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน 2564 จนถึงวันที่ 11 พฤษภาคม 2564

.