ผู้โดยสารโวยสนามบินไทยตรวจโควิด19 ไม่รัดกุม

935
0
Share:

จากกรณีผู้ใช้เฟสบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ข้อความบรรยายรายละเอียดเกี่ยวกับการเดินทางกลับจากเมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน มายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งสเปนถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างรุนแรง และระบุว่า อาจต้องโดนตรวจร่างกายอย่างเข้มงวดตอนมาถึงเมืองไทย หรืออาจต้องโดนกักตัว ซึ่งได้เตรียมใจไว้แล้ว แต่เมื่อมาถึงและเดินผ่าน ตม. ไปยืนรอรับกระเป๋าพร้อมกันกับนักเดินทาง 5-6 ร้อยคน ที่บินมากับสายการบินอื่นๆ 2-3 ลำ ที่บินลงในเวลาไล่เลี่ยกัน ตนและอีก 5-6 ร้อยคนในตอนนั้นก็เดินออกไปนอกสนามบิน โดยที่ไม่ได้เจอะเจอกับเจ้าหน้าที่ใดๆ ที่จะมาตรวจสุขภาพเลยแม้แต่นิดเดียว
.
ล่าสุดผู้ใช้เฟสบุ๊กดังกล่าวชี้แจงใหม่ว่า การโพสต์ข้อความที่เกิดขึ้นไม่ใด้มีเป้าหมายเพื่อจะบั่นทอนกำลังใจของคนที่ทำหน้าที่ เกี่ยวของกับเรื่องนี้แต่อย่างใด แต่แค่งงกับสิ่งที่มันควรจะเกิดขึ้น กับช่วงที่เดินออกมาจากสนามบินก็เท่านั้นเอง ..ผมก็รู้ และก็ทำการบ้านมาแล้วว่าจะมีกล้องเทอร์โมสแกน แขวนอยู่บนเพดานของเกือบทุกๆสนามบินบนโลกใบนี้มานานหลายปีแล้ว.
.
แต่..แต่..ในตอนนี้ แค่นั้นมันไม่น่าจะพอนะครับ คุณจะพอเข้าใจมั๊ยครับ….ตอนผมเดินทางไปเมื่อปลายเดือนที่เเล้ว เหตุการณ์มันยังไม่ร้ายแรง ผมไม่โดนตรวจสุขภาพอะไรเลย ไม่ว่าจะที่อาบูดาบี หรือตอนที่ไปถึงบาเซโลน่าก็ตาม แต่ตอนผมกลับเนี่ย ทุกอย่างมันร้ายแรงแล้ว ที่อื่นเค้ายกระดับการตรวจจับให้มันเข้มข้นขึ้นจนผมใด้เห็นกับตา.. แต่บ้านเรากลับยกระดับการคัดกรองขึ้นมาให้ผมใด้เห็นในจินตนาการเท่านั้น…คุณจะไม่ให้ผมงงสักนิดเลยเหรอ
.
เช่นเดียวกับผู้ใช้เฟซบุ๊กอีกรายที่เดินทางกลับมาจากประเทศญี่ปุ่น ช่วงคืนวันที่ 18 มีนาคม ก็ระบุว่าไม่มีมาตรการใดๆ กับผู้ที่เดินทางมาจากญี่ปุ่นเลย ตามรายละเอียดดังนี้
.
กลับมาถึง กทม. แล้วครับ สนามบินสุวรรณภูมิเงียบกว่าปกติมาก (ไฟลต์ผมลงประมาณ 4 ทุ่มครึ่ง)…หน้าจุดตรวจ ตม. มีเจ้าหน้าที่ 6-7 คนยืนดัก ผู้โดยสารก็ยืนมุงกันงงๆ เพราะไม่มีการจัดคิว ไม่มีป้ายใดๆ และ จนท. ก็ไม่ชี้แจงอะไรทั้งสิ้นว่าตรงนี้ต้องทำอะไร
.
ผมเดาเอาว่าคงตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายมั้ง…ปรากฏไม่ใช่ เพราะ จนท. มีแต่ชุดสีกากี ไม่มีอุปกรณ์การแพทย์ใดๆ…ผมงงเสร็จก็แทรกตัวไปถาม จนท. คนหนึ่งว่าต้องทำอะไร ถึงได้รู้ว่า จนท. 6-7 คนนี้ก็งงเหมือนกัน…ไปๆ มาๆ ได้ความว่าต้องเอาแบบฟอร์มไปกรอก
.
แบบฟอร์มนี้เป็นกระดาษถ่ายเอกสารไม่ค่อยชัด เนื้อหาไม่ต่างจาก Arrival Card ปกติเท่าไร เว้นแต่มีเพิ่มขึ้นมาช่องหนึ่ง ถามว่าในช่วง 2 สัปดาห์นี้ไปประเทศไหนมาบ้าง…ผมกรอกว่า ‘สหรัฐอเมริกา, ญี่ปุ่น’ (ในใจเตรียมตอบคำถามไว้ว่าไปญี่ปุ่นนี่แค่ทรานสิท แต่ก็สงสัยไปด้วยว่า ให้กรอกเองแบบนี้ ถ้าเรากรอกไม่ครบ เขาจะมานั่งพลิกพาสปอร์ตเช็กเหรอ)
.
กรอกเสร็จก็กลับมายื่นแบบฟอร์ม จนท. กวาดตามองครึ่งวินาที ก็แสตมป์ให้ว่า ‘ตรวจแล้ว’ แล้วก็ให้ผ่านได้ ไม่ถามอะไรทั้งสิ้น…อ้าว งงหนึ่งครับ ‘ตรวจแล้ว’ นี่ตรวจไรวะ ไม่เห็นได้ตรวจไรกรูเลยอะ ทั้งที่เขียนว่าไปญี่ปุ่นมา มองไปรอบตัว เพื่อนร่วมไฟลต์ทั้งฝรั่ง-เอเชียก็ทยอยผ่านกันไป…อ้าว งงสอง ไหนรัฐบาลบอกว่าชาวต่างชาติที่มาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงต้องแสดงใบรับรองแพทย์ ไม่งั้นไม่ให้เข้าไง? นี่มาจากญี่ปุ่นกันทั้งไฟลต์ เดินฉลุยเลย
.
ระหว่างนั้นผมก็ได้ยิน จนท. ถามกันเอง
จนท 1: “พี่ๆ ไม่ต้องให้โหลด App เหรอ”
จนท 2: “เออ ต้องปะ”
จนท 3: “ไม่ต้องไม่ใช่เหรอ ถ้าแสตมป์แล้วก็ไม่ต้องโหลด App”
.
สรุป ไฟลต์จากญี่ปุ่นทั้งลำ ไม่มีใครโดนตรวจอะไรเลยครับ ไม่มีตรวจอุณหภูมิ ไม่มีตรวจประวัติการเดินทางในพาสปอร์ต ไม่มีขอใบรับรองแพทย์ ไม่มีให้โหลด App เพื่อเช็ก Location”
.