พาณิชย์เผยดอกเบี้ยแบงก์ชาติสูง คนไทยลดใช้จ่ายประจำวัน ลดลงทุน ชะลอทำธุรกิจ
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการใช้จ่ายของประชาชนในเดือนกรกฎาคม 2566 พบว่า การใช้จ่ายของประชาชนในช่วงที่เงินเฟ้อลดลงนั้น ประชาชนมากกว่าครึ่งยังคงใช้จ่ายเท่าเดิมและลดลง อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น กระทบต่อการใช้จ่าย การออม และการลงทุน ในระดับปานกลาง-มาก โดยมีแนวทางลดผลกระทบคือการลดการซื้อของฟุ่มเฟือย
การใช้จ่ายของประชาชนในช่วงที่เงินเฟ้อลดลง พบว่า ในภาพรวม 44.31% ยังใช้จ่ายเท่าเดิมเป็นอันดับแรก ขณะที่ 31.25% ใช้จ่ายเพิ่มขึ้น และ 24.44% ใช้จ่ายลดลง นั่นหมายถึงสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่ง หรือ 68.75% ใช้จ่ายเท่าเดิมและลดลง สะท้อนให้เห็นว่าเงินเฟ้อที่ลดลงช่วยให้ประชาชนยังสามารถใช้จ่ายได้ในระดับเดิม
กลุ่มประชาชนที่ใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเป็นอันดับแรกคือ 45% กลุ่มผู้ไม่ได้ทำงาน/บำนาญ ต่อมา 38.14% คือ ผู้มีรายได้ไม่เกิน 5,000 บาท/เดือน ดังนั้นประชาชนกลุ่มนี้ยังคงได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าและบริการบางส่วนที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง สำหรับประเภทค่าใช้จ่ายที่จะจ่ายเพิ่มขึ้นหรือลดลงมากที่สุด 3 อันดับแรก คือค่าอาหารและเครื่องดื่มทานที่บ้าน ค่าไฟฟ้า/ประปา และค่าน้ำมันเชื้อเพลิง
ด้านผลกระทบของอัตราดอกเบี้ยที่ปรับสูงขึ้น ที่ผลต่อการใช้จ่าย การออม และการลงทุน พบว่ามี 32.71% ได้รับผลกระทบระดับปานกลาง รองลงมา 26.29% กระทบมาก และ 24.07% ไม่มีผลกระทบ จึงหมายความว่ามากกว่าครึ่งหนึ่ง หรือ 59% ที่ได้รับผลกระทบในระดับปานกลาง-มาก
ผลสำรวจยังพบว่า แนวทางการปรับตัวของผู้ที่ได้รับผลกระทบน้อย-ปานกลาง 3 อันดับแรก ได้แก่ การลดการซื้อของฟุ่มเฟือย การลดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และการชะลอการลงทุน/การทำธุรกิจ ส่วนผู้ได้รับผลกระทบมาก เน้นการลดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเป็นอันดับแรก ในแง่รายอาชีพและระดับรายได้ พบว่า ผู้ได้รับผลกระทบทุกระดับของกลุ่มเกษตรกรและผู้มีรายได้ไม่เกิน 5,000 บาท/เดือน จะลดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเป็นอันดับแรก นั่นคือความสามารถในการวางแผนทางการเงินที่ค่อนข้างจำกัด และอาจได้รับผลกระทบมากหากเผชิญภาวะค่าครองชีพและหนี้ที่สูงขึ้น
ทั้งนี้ นายพูนพงษ์กล่าวว่า การปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นดอกเบี้ยสำคัญของธนาคารแห่งประเทศไทย ทำให้ประชาชนต้องระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น
