พาณิชย์เผยวิกฤตเศรษฐกิจโลกกดดันเป้าส่งออกปี 66 คาดโต 1-2% มั่นใจไม่ติดลบ

207
0
Share:
พาณิชย์ เผย วิกฤตเศรษฐกิจโลก กดดันเป้า ส่งออก ปี 66 คาดโต 1-2% มั่นใจไม่ติดลบ

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์(พณ.) เปิดเผยว่า ตัวเลขการส่งออกเดือนธ.ค.2565 ขยายตัวติดลบ 14.6% มูลค่า 21,718 ล้านเหรียญ โดยหมวดสินค้าอุตสาหกรรมติดลบ 15.7% และสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร ติดลบ 11.2% จากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว และตลาดส่งออกหลักหดตัว 13.6% ทุกตลาดได้แก่ สหรัฐ 3.9% จีน 20.8% ญี่ปุ่น 13.7% อาเซียน 24.2% สหภาพยุโรป 4.9%

ส่วนการส่งออกทั้งปี 2565 ตัวเลขยังเป็นบวก 5.5% มูลค่า 287,067 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนการนำเข้าขยายตัว 13.6% มูลค่า 303,190 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่งผลให้ทั้งปีไทยขาดดุลการค้า 16,122 ล้านเหรียญสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ได้หารือร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาผู้ขนส่งสินค้าทางเรือ และผู้ประกอบการส่งออกเพื่อประเมินเป้าหมายการส่งออกปี 2566 โดยสรุปร่วมกันว่ายังคงขยายตัวเป็นบวก 1-2% มูลค่า 289,938-292,809 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งขยายตัวลดลงจากปีก่อนเนื่องจากยังมีปัจจัยลบต่อเนื่อง คือเศรษฐกิจตลาดหลักขยายตัวลดลง คาดว่า สหรัฐ ขยายตัว 0.5-1% ยุโรป ขยายตัว 0.0-0.5% ญี่ปุ่น 1.6%

นายจุรินทร์ กล่าวว่า การส่งออกปีนี้ยังไม่ติดลบ ยังเป็นบวกได้ 1-2% เพราะยังมีปัจจัยบวกหลายอย่าง เช่น ค่าระวางเรือปรับลดลง ความต้องการอาหารของโลกยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตลาดที่มีศักยภาพ 4 ตลาดหลักยังเติบโตได้ดี คือ ตลาดตะวันออกกลาง คาดว่าจะขยายตัวได้ 20%

ด้านนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า มั่นใจว่าปีนี้ส่งออกจะไม่ติดลบแน่นอน ขณะที่ประเทศอื่นติดลบ เศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัว การท่องเที่ยวจะเป็นเครื่องจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ส่วนปัญหาเงินบาทแข็งค่าเกิดจากกองทุนต่างประเทศไม่มีที่ไป เนื่องจากตลาดยุโรป และสหรัฐ มีความเสี่ยง จึงทำให้เงินไหลทะลักเข้าไทยจำนวนมากทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าเร็ว ส่วนในระยะยาวยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวอย่างไร

ขณะที่นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า คณะกรรมการสรท.ได้พิจารณาข้อเสนอแนะแนวทางบรรเทาปัญหาและช่วยเหลือผู้ประกอบการส่งออกไทย ที่ได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยได้ส่งหนังสือถึงผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้พิจารณาดำเนินการช่วยเหลือผู้ส่งออก โดยขอให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย รวมทั้งขอให้ธปท.รักษาเสถียรภาพค่าเงินบาทในระดับ 34-35 บาท/เหรียญสหรัฐ หรือที่ไม่แข็งค่าไปกว่าประเทศคู่ค้า