พายุเศรษฐกิจ! ชี้ 3 โจทย์สุดหินเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังสำหรับรัฐบาลหน้าใหม่

ดร.ธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย เปิดเผยบทความวิชาการเกี่ยวกับสภาวะแวดล้อมเศรษฐกิจครึ่งปีแรก พ.ศ. 2566 ว่าภาคการส่งออก 5 เดือนแรกปีนี้ หรือตั้งแต่มกราคม – พฤษภาคม ที่ชะลอตัว -5.09% และทรุดติดลบต่อเนื่อง 8 เดือน ส่งผลตรงต่อภาวะการทำงานทั้งภาคการผลิตและบริการ ดูได้จากอัตราการว่างงานเดือนพฤษภาคมอยู่ที่ 1.3% ทำสถิติสูงสุดในรอบ 6 เดือน นั่นหมายถึงมีผู้ว่างงานถึง 5.151 แสนคน ในจำนวนนี้ เป็นผู้ที่สมัครใจลาออกเพิ่มขึ้นถึง 1.9 เท่า

นอกจากนี้ การจับจ่ายใช้สอยของประชาชนซึ่งอยู่ในภาวะอ่อนแอ สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อเดือนพฤษภาคม 2566 ขยายตัวเพียง 0.53% จากค่าเฉลี่ยปีที่แล้ว 6.08% การจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคเกี่ยวข้องโดยตรงกับปัญหาหนี้ครัวเรือนสูง ซึ่งเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างถึงแม้นสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศจะลดลงก็ตาม แต่มูลหนี้ในช่วง 4 ปี กลับเพิ่มสูงถึง 1.5 ล้านล้านบาท ที่สำคัญ หนี้ในระบบธนาคารพานิชย์ซึ่งเป็นหนี้กำลังเสียและหนี้เสียแล้วในไตรมาสที่ 1 ปีนี้ มีจำนวน 9.5 แสนล้านบาท

สถานการณ์ที่กล่าวมาปัญหาที่รัฐบาลใหม่จะต้องให้ความสำคัญเนื่องจากการปรับโครงสร้างหนี้ครบกำหนดระยะเวลาเกี่ยวข้องกับหนี้ธุรกิจ หนี้ผ่อนบ้าน หนี้ผ่อนรถ รวมถึงหนี้นอกระบบซึ่งแต่ละพรรคการเมืองมีนโยบายในการแก้ปัญหาหนี้ส่วนจะทำได้มากน้อยเพียงใดคงเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ตัวเลขการนำเข้าที่หดตัวโดยเฉพาะสินค้าประเภททุนและเครื่องจักรที่ 5 เดือนแรกมูลค่าการนำเข้าหดตัว 0.84% จากที่ขยายตัวในช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 10.3% และการนำเข้าวัตถุดิบ-สินค้ากึ่งสำเร็จรูปหดตัว 7.9% จากที่ขยายตัวในช่วงเดียวกัน 11.8% การนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคหดตัว 0.24% จากที่เคยขยายตัว 9.72% ข้อมูลนี้บ่งบอกได้ว่าครึ่งปีแรกกำลังการผลิตและการลงทุนหรือเพิ่มเครื่องจักรจะไม่ขยายตัวสอดคล้องกับการสำรวจของหอการค้าญี่ปุ่นประจำประเทศไทย (JCC) ระบุว่าบริษัทญี่ปุ่น 512 รายในช่วงครึ่งปีหลัง 41% จะไม่ลงทุนเครื่องจักรและขยายการผลิต และ 13% จะชะลอหรือลดกำลังการผลิต

ทั้งนี้ ปัจจัยหนุนเศรษฐกิจไทย ซึ่งเป็นเพียงเครื่องจักรเดียวที่ค้ำจุนเศรษฐกิจของประเทศ คือภาคท่องเที่ยว ซึ่งตั้งเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติไว้ 30 ล้านคนแต่ครึ่งปีแรก (ม.ค.- มิย.) นักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมยังไม่ถึงครึ่งโดยมีจำนวน 12.464 ล้านคน

ที่น่าสนใจ คือนักท่องเที่ยวจีนตั้งเป้าทั้งปีนี้ที่ 5 ล้านคน แต่ช่วงครึ่งปีแรกมีเพียง 1.384 ล้านคนเท่านั้น ซึ่งเป็นผลจากเศรษฐกิจของจีนที่ยังซึมและรัฐบาลไม่ส่งเสริมการท่องเที่ยวในลักษณะกรุ๊ปทัวร์ทำให้รายได้ท่องเที่ยวทั้งในและต่างชาติอาจไม่ได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ 2.38 ล้านล้านบาท

รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย กล่าวว่า สำหรับเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังนั้น ณ วันนี้ยังไม่เห็นว่าจะได้ใครมาเป็นดรีมทีมด้านเศรษฐกิจ ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังฝากความหวังไว้ที่ “การส่งออก” จะกลับมาเป็นบวกซึ่งเป็นความท้าทายค่อนข้างสูง รวมถึงการได้รัฐบาลใหม่ที่มีทีมงานเศรษฐกิจที่มีศักยภาพและเป็นตัวจริง รู้ปัญหาจริง ทำงานในลักษณะเป็น “Dream Team” ซึ่งจะสร้างความเชื่อมั่นทั้งด้านการจับจ่ายใช้สอยและการลงทุน รวมถึงออกมาตรการที่จำเป็นในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจ