พิธาเดินสายถกเอกชน ส.อ.ท. หารือขึ้นค่าแรง สร้างความมั่นใจผลักดันนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ

273
0
Share:
พิธา เดินสายถก เอกชน ส.อ.ท. หารือ ขึ้นค่าแรง สร้างความมั่นใจผลักดันนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และว่าที่นายกรัฐมนตรี นำทีมพรรคก้าวไกล อาทิ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล นายวีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร เข้าหารือกับ นายเกรียงไกร เธียรนุกุลประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) พร้อมผู้บริหาร ส.อ.ท. อาทิ นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานส.อ.ท. นายกฤษณ์ อิ่มแสง เลขาธิการ ส.อ.ท. เพื่อหารือนโยบายเศรษฐกิจ

นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธาน ส.อ.ท. เปิดเผยว่า การพูดคุยวันนี้เป็นการพบปะเพื่อสร้างความเข้าใจ และสร้างความเชื่อมั่น อาทิ ประเด็นค่าแรง ค่าไฟ-ค่าน้ำ การช่วยเหลือและผลักดันเอสเอ็มอี และการปฎิรูปกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการเดินหน้าเศรษฐกิจ ถือเป็นอีกมิติใหม่ที่พรรคจัดตั้งรัฐบาล มีการเข้ามาเปิดมุมมองและแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน โดยประเด็นการปรับขึ้นค่าแรง ภาคเอกชนมองว่าจะต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน ไม่กังวลว่าจะมีการปรับขึ้นแต่ต้องเหมาะสมกับทุกฝ่าย

ด้านนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า นโยบายการปรับขึ้นค่าแรง 450 บาทนั้น บางเรื่องที่ต้องรวดเร็วก็ต้องรวดเร็ว บางเรื่องที่ต้องรอบคอบก็ต้องรอบคอบ สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์แรกที่มีคณะกรรมการเปลี่ยนผ่านอำนาจของประชาชน จึงต้องมาคุยกับส.อ.ท. และกกร.เพื่อรับฟังเสียงภาคเอกชน ทั้งเรื่องของแรงงาน เอสเอ็มอี โดยพรรคจะพิจารณาให้รอบด้านภายในสัปดาห์นี้ และจะนำไปคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งพรรคเพื่อไทยเองก็เห็นด้วยกับการขึ้นค่าแรง แต่ในเรื่องของตัวเลขอัตราค่าจ้างนั้นก็เข้าใจว่า การขึ้นค่าแรงในลักษณะนี้ อาจจะกระชากระบบเศรษฐกิจไปบ้าง แต่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกเพราะเคยเกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์มาแล้ว โดยคณะกรรมการเปลี่ยนผ่านอำนาจของประชาชนกำลังศึกษาแพ็คเกจการขึ้นค่าแรงสมัยปี 2556 และจะมาแจกแจงรายละเอียดเรื่องการช่วยเหลือแรงงาน และภาคอุตสาหกรรมควบคู่เพิ่มเติม พร้อมพิจารณาเรื่องขีดความสามารถในการแข่งขันด้วย ส่วนข้อเสนอของภาคเอกชน ให้คิดค่าจ้างโดยยึดแบบ pay by skill หรือจ่ายตามทักษะของแรงงานนั้น ก็สอดคล้องกับหลักการของพรรคก้าวไกลเองเช่นกัน ส่วนกรณีที่เอกชนอยากให้เร่งจัดตั้งรัฐบาลให้แล้วเสร็จก่อนเดือนสิงหาคมนั้น เรื่องนี้อยู่ในกรอบของกฎหมาย และต้องรอกกต.รับรอง ถ้ารับรองเร็ว กระบวนการจัดตั้งรัฐบาลก็จะเป็นไปอย่างรวดเร็ว

สำหรับการนำทีมพรรคก้าวไกลมาที่ ส.อ.ท. เนื่องจากมีสว.หลายท่านที่เคยทำงานในยุครัฐบาลไทยรักไทย สมัยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เคยทำงานที่นี่ ซึ่งมีความผูกพันกัน สว.หลายท่านเคยทำงานในหลายกระทรวงเศรษฐกิจ เช่น กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ เคยเห็นผมมาตั้งแต่อายุ 20 กว่า ความชัดเจนจะมากขึ้นแน่นอน เข้าใจว่าคงต้องใช้เวลาในการอธิบาย เพื่อให้ประชาชนสบายใจ รวมไปถึงนักธุรกิจ เพื่อให้เกิดความมั่นใจต่อเสถียรภาพของรัฐบาล พร้อมรับฟัง 6 ข้อเสนอของภาคเอกชน ที่คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร. เคยนำเสนอไปก่อนหน้านี้ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายพรรคคือ เน้นบรรเทาทุกข์ เน้นความเท่าเทียม เน้นเรื่องความทันสมัย เป็นธรรม และ ต้องเป็นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำด้วย ซึ่งเชื่อว่าเมื่อนักธุรกิจได้รับฟังก็จะเห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้น ในการเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจในช่วงที่เศรษฐกิจโลกซบเซา

ส่วนกรณีความกังวลต่อการออกเสียงสนับสนุนเป็นนายกรัฐมนตรีของ สมาชิกวุฒิสภา หรือ สว. นายพิธา กล่าวว่า ดูท่าทีวันนี้ยังไม่มีปัญหา เป็นเรื่องของระบบ มากกว่าเรื่องของตัวบุคคล จึงต้องประคับประคองเพื่อหาทางออก ซึ่งที่ผ่านมาได้พูดคุยไปบ้างแล้ว แต่ยังไม่เปิดเผย ส่วนสว.ที่ยังไม่ได้ตัดสินใจ แกนนำพรรคการก้าวไกลและพรรคร่วมฯ พยามเจรจาพูดคุยกันอยู่