“พิธา” ไม่กังวล 3 ด่านสะกัดขึ้นนั่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ 3 หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล

261
0
Share:
“พิธา” ไม่กังวล 3 ด่านสะกัดขึ้นนั่ง นายกรัฐมนตรี คนใหม่ 3 หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล กล่าวว่า การถือครองหุ้นไอทีวีเป็นการถือหุ้นหรือการจัดการมรดกนั้น เรื่องรายละเอียดของหุ้น จะมีคำตอบอยู่แล้ว ขอให้รอฟังจาก กกต. และมองว่าอุบัติเหตุทางการเมืองอนุมานได้หลายรูปแบบ และในแต่ละรูปแบบ ได้มีการเตรียมรองรับอยู่แล้ว จึงไม่กังวล และจะทำให้โอกาสเกิดอุบัติเหตุเป็นอุบัติเหตุเล็กน้อยที่สุด

นายพิธา กล่าวว่า ไม่กังวลและไม่ประมาทเพราะทั้ง 3 ด่าน ไม่ว่าจะเป็นกกต. ศาลรัฐธรรมนูญ และวุฒิสมาชิก ทีมงานวางแผนในการทำงานและดูแลทุกสถานการณ์อยู่แล้ว ดูว่าฉากทัศน์แต่ละอย่าง จะทำอย่างไรให้การจัดตั้งรัฐบาลมีความเสี่ยงน้อยที่สุดและเดินหน้าไปได้ด้วยดี ได้เดินหน้าทำงานต่อไป ดังนั้นขอเรียนพี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนว่าไม่ต้องกังวลใจ

นายพิธายังได้ตอบคำถามกรณีที่ไปค้ำประกันหนี้สินจำนวนหนึ่ง แต่ไม่ได้แจ้งกับ ป.ป.ช. โดยกล่าวว่า ไม่ได้มีปัญหา เพราะมีการประสานงานกับป.ป.ช. ถ้ามีคนร้องจริงหรือมีคำถาม ก็พร้อมชี้แจง ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติที่จะมีเรื่องนี้เกิดขึ้นส่วนที่มีข่าวจะให้ใบแดงกับว่าที่ ส.ส. อาจทำให้สัดส่วน ส.ส.ก้าวไกลหายไป จะต้องเปลี่ยนสมการตั้งรัฐบาลหรือไม่นั้น นายพิธา กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าจะมีการให้ใบแดงถึง 20 คนจริงหรือไม่ เท่าที่สอบถามไม่ได้มีการร้องกันถึงขั้นนี้ และหากให้มีการเลือกตั้งใหม่ก็พร้อมที่จะลงเลือกตั้งและคิดว่าจะเป็นจุดที่ทำให้เราได้ ส.สมากขึ้นด้วยซ้ำ จึงมั่นใจว่าไม่กระทบกับการจัดตั้งรัฐบาล

ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าถ้าเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคก้าวไกล จะทำอย่างไรนั้น ขอยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยมุ่งมั่นในฉากทัศน์แรกที่จะจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ จากการพูดคุยในขณะนี้ยังมั่นใจว่าจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้

ทั้งนี้ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ยินแต่คำถามว่า กกต. ว่าอย่างไร ศาลรัฐธรรมนูญว่าอย่างไร แต่ไม่ได้ยินคำถามว่าประชาชนว่าอย่างไร ซึ่งอำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจแก้ไขปัญหาเมื่อมีปัญหา ซึ่งประชาชนถามตนตลอดว่าเมื่อไหร่จะจัดตั้งรัฐบาลเสร็จ เพราะรอให้รัฐบาลมาแก้ไขปัญหาต่างๆ ทั้งปัญหาราคาพืชผลตกต่ำ ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และการเลือกตั้งนั้นประชาชนสนับสนุนพรรคใดมากที่สุด ก็ควรให้จัดตั้งรัฐบาล นี่คือเสียงของประชาชน อยากให้นำเสียงเรียกร้องของประชาชน สะท้อนไปยังผู้มีอำนาจ นี่คือประชาธิปไตย