พิษดอกเบี้ย! ราคาที่อยู่อาศัยปีมังกรจ่อขึ้นอีก 5-10% สารพัดต้นทุนกดไม่ลงบนยุคดอกเบี้ยขานิ่ง

285
0
Share:
พิษ ดอกเบี้ย ! ราคาที่อยู่อาศัย ปีมังกรจ่อขึ้นอีก 5-10% สารพัดต้นทุนกดไม่ลงบนยุคดอกเบี้ยขานิ่ง

นายประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล ดับเบิลยู เอส วิสดอม แอนด์ โซลูชั่นส์ จำกัด บริษัทวิจัยและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือบริษัท แอล พี เอ็น ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเปิดโครงการจำนวนมากในปี 2566 ทำให้มีจำนวนหน่วยที่อยู่อาศัยคงค้างในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑลจนถึงสิ้นปี 2566 ปีะกอบด้วย ประเภทบ้านพักอาศัยจำนวน 145,634 หน่วย เพิ่มขึ้น 12.6% ในทางตรงกันข้ามกับคอนโดมิเนียมมีหน่วยคงค้าง 84,200 หน่วย ลดลง 1.7% โดยจำนวนหน่วยคงค้างดังกล่าวทำให้บ้านพักอาศัยต้องใช้ระยะเวลาในการขายประมาณ 4-5 ปี และกลุ่มคอนโดมิเนียม ใช้เวลาในการขายประมาณ 1-2 ปี

ด้านจำนวนและมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ทั้งประเทศไทยในปี 2566 คาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยที่ 1.06-1.08 ล้านล้านบาท หรือ ทรงตัวใกล้เคียงกับปี 2565 หรือเพิ่มขึ้น 1-2% ราคาเฉลี่ยในการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 อยู่ที่ 2.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.99 %

นายประพันธ์ศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า ราคาขายเฉลี่ยของที่อยู่อาศัยที่เปิดตัวในปี 2566 ที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงราคาเฉลี่ยในการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยที่มีแนวโน้มว่า ราคาเฉลี่ยในการโอนกรรมสิทธิ์ปรับตัวเพิ่มขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงสภาพตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2566 ที่ต้นทุนในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่ปรับตัวสูงขึ้นจากหลายปัจจัยทั้งราคาที่ดิน วัสดุก่อสร้าง รวมไปถึงต้นทุนทางการเงินที่ปรับตัวสูงขึ้นตามอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ทำให้ราคาที่อยู่อาศัยปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง

ปัจจัยดังกล่าว รวมถึงค่าแรงขั้นต่ำที่ปรับตัวสูงขึ้นตามนโยบายของรัฐบาลในปี 2567 ยังคงเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาที่อยู่อาศัยในปี 2567 ที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5-10% โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ และ ปริมณฑล ที่ราคาที่ดินมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นตามแนวรถไฟฟ้าและในทำเลที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับการความต้องการของผู้ซื้อ ซึ่งที่ดินในทำเลดังกล่าว มีจำนวนจำกัด ทำให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย ส่งผลโดยตรงต่อราคาที่อยู่อาศัยในปี 2567 ที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ภาพรวมที่อยู่อาศัยในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ปี 2566 ราคาที่อยู่อาศัยโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 5.49 ล้านบาทต่อหน่วย เพิ่มขึ้น 24% จากปี 2565 โดยมีจำนวนโครงการเปิดตัวใหม่ทั้งหมด 437 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 544,265 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% และ 18% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับปี 2565 ซึ่งการเปิดตัวใหม่ 99,012 หน่วย ลดลง 4% มีอัตราการขายเฉลี่ย ณ วันเปิดตัวโครงการอยู่ที่ 17% ของมูลค่าโครงการที่เปิดตัว