ภัยแล้งแรงสุดใน 40 ปี ชาวนาขาดทุนสุดโต่งกว่า 3 แสนหลังนาข้าวหอมมะลิตายยกแปลง

218
0
Share:
ภัยแล้ง แรงสุดใน 40 ปี ชาวนา ขาดทุน สุดโต่งกว่า 3 แสนหลังนาข้าวหอมมะลิตายยกแปลง

นายพยนต์ อัศวพิชยนต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า ถึงแม้จะมีฝนตกลงมา แต่ตกปริมาณน้อยไม่เพียงพอสำหรับนาข้าว จากฝนทิ้งช่วงเวลานาน กว่า 2 เดือน ขณะที่ทางจังหวัดพิจิตร ได้ขอสนับสนุนหน่วยงาน เร่งทำฝนเทียม โดยเฉพาะพื้นที่การเกษตรนอกเขตชลประทาน ใน 7 อำเภอ อำเภอสากเหล็ก อำเภอวังทรายพูน อำเภอทับคล้อ อำเภอดงเจริญ อำเภอวชิรบารมี อำเภอตะพานหิน และอำเภอเมืองพิจิตร

ชาวนารายหนึ่งในตำบลหนองพระ อำเภอวังทรายพูน จังหวัดพิจิตร ชื่อว่า นางน้ำผึ้ง กะโห้ เปิดเผยว่า ฝนหยุดตก มานานถึง 2 เดือน ทำให้ต้นข้าวหอมมะลิเริ่มยืนต้นตาย สาเหตุจากขาดน้ำ หากไม่มีฝนตกลงมาในเร็วๆนี้ จะทำให้ข้าวเสียหายยืนต้นแห้งเหี่ยวตายทั้งหมด และต้องเสียเงินที่ลุงทุนกว่า 300,000 บาท เพื่อหวังเป็นรายได้ในครัวเรือน ยอมรับว่าในปีนี้ ภัยแล้งหนักสุดในรอบ 40 ปี

สำหรับนาข้าวในจังหวัดพิจิตรนั้น ส่วนใหญ่เป็นการปลูกข้าวหอมมะลิ ซึ่งอยู่นอกเขตชลประทาน โดยมีพื้นที่ทำการเกษตรจำนวน 1,191,467 ไร่ อยู่ในทั้ง 7 อำเภอของจังหวัดพิจิตรที่กำลังประสบปัญหานาข้าวแห้งเหี่ยวทยอยยืนต้นตาย จากฝนหยุดตกเป็นเวลานาน และปริมาณฝนไม่เพียงพอ ซึ่งจะส่งผลกระทบ กับประชาชนในปีนี้และถึงปีต่อไป

ด้านนายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่าได้คาดการณ์การส่งออกข้าวไทยในเดือนสิงหาคมอยู่ที่ระดับประมาณ 600,000-700,000 ตัน ในขณะที่ภาวะราคาข้าวในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี หลังจากที่ประเทศอินเดียระงับการส่งออกข้าวขาว และเรียกเก็บภาษีส่งออกข้าวนึ่งในอัตรา 20% ประกอบกับประเทศเมียนมาจะมีการห้ามการส่งออกข้าวชั่วคราวเป็นเวลา 45 วัน นับจากสิ้นเดือนสิงหาคม 2566 นี้ จึงทำให้ผู้ซื้อเร่งหาซื้อข้าวจากประเทศอื่น ๆ โดยหันมาที่ไทยมากขึ้น

ทั้งนี้ ข้อมูลถึงวันที่ 30 สิงหาคม 2566 ราคาข้าวขาว 5% ของไทยอยู่ที่ 646 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ขณะที่ราคาข้าวขาว 5% ของเวียดนาม และปากีสถานอยู่ที่ 643-647 และ 608-612 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ตามลำดับ ส่วนราคาข้าวนึ่งไทยอยู่ที่ 649 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ขณะที่ข้าวนึ่งของปากีสถานอยู่ที่ 603-607 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันตามลำดับ