ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเริ่มเก็บแล้ว 1 ก.ย.นี้ ผู้ว่าเตือนใครยังไม่จ่ายโดนปรับ 11%

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ระบุว่า เมื่อวานนี้ (31 สิงหาคม) ถือเป็นวันสุดท้ายของการชำระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ทั้งนี้ถ้าจ่ายผ่านแอปพลิเคชันธนาคารได้ถึงเวลาเที่ยงคืน และถ้าจ่ายที่สำนักงานเขตหรือธนาคารกรุงไทยจ่ายได้ตามเวลาเปิดปิดของเขตและธนาคารซึ่งหากใครที่ยังไม่จ่าย หลังเที่ยงคืนก็จะมีค่าปรับเงินเพิ่มอีก 11% โดยในส่วนของ 1% จะเพิ่มทุกเดือน ส่วนอีก 10% ถ้าหากมีจดหมายเตือนจะเป็น 20% ถ้ามีเดดไลน์แล้วไม่มาจ่ายก็เป็น 40% ซึ่งอาจทำให้ต้องเสียค่าปรับเงินเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้คนส่วนใหญ่มาจ่ายภาษีที่ดินฯ แล้ว น่าจะอยู่ที่ประมาณ 8,000 ล้านบาท ซึ่งกรุงเทพมหานครพยายามนำภาษีกลับมาใช้ให้มีประโยชน์สูงสุด ในส่วนของสถานการณ์รายได้ ล่าสุดน่าจะสามารถเก็บภาษีและมีรายได้เข้ามาประมาณ 86,000 ล้านบาทแล้ว สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ประมาณ 79,000 ล้านบาท

สำหรับภาษีที่ดิน คือ การเรียกเก็บภาษีตามกฎหมายที่มาแทนที่ ภาษีโรงเรือนและที่ดินและภาษีบำรุงท้องที่ที่มีความซ้ำซ้อนกัน โดยภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง จะเป็นรูปแบบของภาษีรายปีที่คำนวณจากมูลค่าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีไว้ในครอบครอง ซึ่งจะมีเทศบาล อบต. เป็นผู้เรียกเก็บ

ตามประกาศพระราชกฤษฎีกาลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างบางประเภท (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2566 จากเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา มีการลดอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 15% ตามปีภาษี 2566 โดยมีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 4 ประเภทที่ได้รับการลดอัตราภาษีลง ได้แก่

– ที่ดินที่มีการนำมาใช้ประโยชน์ทางด้านเกษตรกรรม จะต้องเสียภาษีในอัตรา 0.01-0.1%
– ที่ดินเพื่อการอยู่อาศัย จะต้องเสียภาษีในอัตราตั้งแต่ 0.02-0.1%
– ที่ดินเพื่อพาณิชยกรรม เป็นที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่นำมาใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ โดยถูกนำมาใช้ในลักษณะออฟฟิศ สำนักงาน โรงแรม หรือแม้แต่ธุรกิจร้านอาหาร โดยอัตราภาษีตั้งแต่ 0.3-0.7%
– ที่ดินรกร้างว่างเปล่า ที่ดินรกร้างว่างเปล่า เป็นที่ดินที่ไม่ได้นำมาใช้ประโยชน์ โดยปล่อยให้ที่ดินดังกล่าวเป็นที่รกร้างว่างเปล่า จะต้องเสียภาษีที่ดินว่างเปล่าตั้งแต่ 0.3-0.7% เช่นกัน