ยอดติดโควิดรายวันในเกาหลีใต้อาจแตะ 10,000 เดือนนี้ คุมเข้มปชช.-ร้านอาหาร-ผับบาร์
นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ แถลงว่า รัฐบาลเห็นชอบการใช้มาตรการควบคุมและจำกัดการแพร่กระจายของโรคระบาดโควิด-19 เข้มข้นขึ้นกว่าที่ใช้ในปัจจุบัน ได้แก่ สั่งลดจำนวนประชาชนรวมตัวในที่สาธารณะได้ไม่เกิน 4 คนทั่วประเทศ สั่งใช้เคอร์ฟิวธุรกิจร้านอาหาร ผับ บาร์ ไนท์คลับ ทุกประเภทเปิดได้ถึง 21.00 น. ที่สำคัญ อนุญาตให้มีลูกค้าที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 แล้วเข้าใช้บริการนั่งในร้านไม่เกิน 4 คน สำหรับผู้ที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนนั้น ให้สั่งกลับไปทานที่บ้าน ในส่วนโรงภาพยนตร์ อาคารแสดงคอนเสิร์ต และร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ ให้เปิดบริการถึง 22.00 น. ด้านสถาบันการศึกษาทุกแห่งทั่วประเทศ ให้เปิดทำการได้เพียง 2 ใน 3 ของภาวะปกติ ขณะที่โรงเรียนที่สอนชั้นประถมปลายให้เปิดทำการได้เพียง 75% ของภาวะปกติ มาตรการทั้งหมดให้มีผลตั้งแต่วันเสาร์ที่ 18 ธันวาคมนี้ไปถึงวันที่ 2 มกราคม 2565
ด้านผู้เชี่ยวชาญโรคระบาดในเกาหลีใต้ ประเมินว่า จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันในเกาหลีใต้จะเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 10,000 รายภายในเดือนนี้ และอาจเพิ่มเป็นวันละ 20,000 รายในเดือนมกราคม 65
ถ้าหากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยอดผู้ป่วยโรคระบาดโควิด-19 อาการรุนแรงขั้นโคม่าพุ่งขึ้นเป็น 1,800 – 1,900 ราย จากปัจจุบันที่เข้าใกล้ 1,000 ราย
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาดแห่งชาติเกาหลีใต้ หรือ KCDC เปิดเผยว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอไมครอนรายวันอีก 20 ราย ส่งผลจำนวนติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนสะสมเป็น 148 ราย อยู่อันดับที่ 9 ของโลก และเป็นอันดับ 1 ในเอเชีย
ขณะที่ ในวันนี้ 15 ธันวาคม 2564 ศูนย์ KCDC รายงานสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 รอบที่ 4 ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาถึงช่วงเช้าวันนี้ 15 ธันวาคม 2564 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งขึ้น 7,622 ราย ไม่เพียงทำสถิติยอดติดเชื้อรายวันมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ หรือตั้งแต่เกิดการระบาดในเกาหลีใต้เป็นต้นมา ทำให้ยอดติดสะสมเพิ่มเป็น 544,117 ราย และอยู่อันดับที่ 64 ของโลก โดยสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เดิมอยู่ที่ 7,843 ราย เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2564 ข้อมูลถึงเมื่อเมื่อวานนี้ 7 ธันวาคม 2564 พบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันเฉลี่ยในรอบ 7 วันติดต่อกันพุ่งขึ้นมาเป็น 5,012 ราย
สำหรับยอดติดเชื้อรายใหม่ 7,622 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศจำนวน 7,591 ราย หรือ 99% ของจำนวนทั้งหมด ขณะที่อีก 31 รายติดเชื้อจากการเดินทางกลับเข้าเกาหลีใต้ ในส่วนของผู้เสียชีวิตรายวันนั้น พบผู้เสียชีวิตรายใหม่เพิ่ม 62 ราย ในขณะที่ที่เมื่อวานนี้ 14 ธันวาคม 2565 เกาหลีใต้มียอดผู้เสียชีวิตรายวันทำสถิติมากเป็นประวัติการณ์ที่ 94 ราย ส่งผลยอดเสียชีวิตสะสมเป็น 4,518 ราย อัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้วมาอยู่ที่ 0.83%
สิ่งสำคัญ คือยอดผู้ป่วยโรคระบาดโควิด-19 อาการรุนแรงขั้นโคม่าพุ่งขึ้นเป็น 989 ราย ทำสถิติมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ หรือตั้งแต่เกิดการระบาดในเกาหลีใต้เป็นต้นมา
สำหรับพื้นที่ที่พบการระบาดมากที่สุดในประเทศเกาหลีใต้ ได้แก่ กรุงโซล พบว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งถึง 3,047 ราย หรือสูงถึง 40% ของจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันนี้ นอกจากนี้หากรวมพื้นที่รอบนอกที่ใกล้เคียงกรุงโซล จะพบว่ากลายเป็นพื้นที่ที่พบการระบาดมากที่สุดของประเทศเป็นจำนวน 5,187 ราย หรือ 70%
สาเหตุเกิดจากในขณะนี้ตรวจพบว่าภูมิคุ้มกันในร่างกายของประชาชนวัยผู้ใหญ่ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสมาก่อนหน้านี้เริ่มลดลง และกลุ่มเด็ก-วัยรุ่นที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่หนึ่ง นอกจากนี้ การแพร่ระบาดของเชื้อสายพันธุ์เดลต้า หรืออินเดียเป็นสายพันธุ์หลักในเกาหลีใต้ รวมถึงนโยบายรัฐบาลเกาหลีใต้ที่ต้องการให้ประชาชนอยู่ร่วมกับโรคระบาดโควิด-19 ด้วยการผ่อนคลายมาตรการและข้อจำกัดหลายอย่างนับตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนเป็นต้นมา
ทั้งนี้ ข้อมูลถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2564 พบว่าประชาชนชาวเกาหลีใต้ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 อย่างน้อย 1 เข็ม มีจำนวน 43.7 ล้านคน หรือ 84.1% ของประชากรทั้งประเทศ ขณะที่ ได้รับการฉีดครบทั้ง 2 เข็ม มีจำนวนกว่า 42.1 ล้านคน คิดเป็น 81.5% ของประชากรทั้งประเทศ และฉีดเข็มสามหรือเข็มบูสเตอร์อยู่ที่ 8.84 ล้านคน หรือที่ 17.3% เกาหลีใต้ใช้วัคซีนทั้งหมด 4 ยี่ห้อ ได้แก่ แอสตร้าเซเนก้า ไฟเซอร์ โมเดอร์นา และจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน
