ยอดป่วยโรคโควิด-19 ในเกาหลีใต้โคม่า มากเป็นประวัติการณ์ กว่า 5,200 คน

รัฐบาลเกาหลีใต้ตัดสินใจเลื่อนวันผ่อนคลายมาตรการป้องกันและควบคุมโรคระบาดโควิด-19 ที่กำหนดไว้ในช่วงกลางเดือนธันวาคมออกไปอย่างไม่มีกำหนดหลังจากพบอัตราการติดเชื้อรายวันพถางสูงเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่อง สอดรับการพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน 3 รายแรกในประเทศเกาหลีใต้ รวมถึงผลตรวจเชื้ออีก 1 รายจะปรากฎในช่วงเช้าวันนี้

วันนี้ 2 ธันวาคม 2664 ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาดแห่งชาติเกาหลีใต้ หรือ KCDC รายงานสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 รอบที่ 4 ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาถึงช่วงเช้าวันนี้ 2 ธันวาคม 2564 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งขึ้น 5,266 ราย ไม่เพียงทำสถิติยอดติดเชื้อรายวันมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ หรือตั้งแต่เกิดการระบาดในเกาหลีใต้เป็นต้นมา แต่ยังเป็นวันที่ 2 ที่มีสถิติติดเชื้อรายวันแตะหลัก 5,000 ราย ทำให้ยอดติดสะสมเพิ่มเป็น 457,616 ราย และอยู่อันดับที่ 68 ของโลก โดยสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เดิมอยู่ที่ 5,120 ราย เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2564

สำหรับยอดติดเชื้อรายใหม่ 5,266 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศสูงถึง 5,242 ราย หรือ 99% ของจำนวนติดเชื้อในภาพรวมทั้งหมด ในขณะที่พบติดเชื้อของผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศจำนวน 24 ราย ในส่วนของผู้เสียชีวิตรายวันนั้น พบผู้เสียชีวิตรายใหม่เพิ่ม 47 ราย ส่งผลยอดเสียชีวิตสะสมเป็น 3,705 ราย อัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้วมาอยู่ที่ 0.81% สิ่งสำคัญ คือยอดผู้ป่วยโรคระบาดโควิด-19 อาการรุนแรงขั้นโคม่าพุ่งขึ้นเป็น 733 ราย ทำสถิติมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ หรือตั้งแต่เกิดการระบาดในเกาหลีใต้เป็นต้นมา

สำหรับพื้นที่ที่พบการระบาดมากที่สุดในประเทศเกาหลีใต้ ได้แก่ กรุงโซล พบว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งถึง 2,262 ราย หรือสูงถึง 45% ของจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันนี้ นอกจากนี้หากรวมพื้นที่รอบนอกที่ใกล้เคียงกรุงโซล จะพบว่ากลายเป็นพื้นที่ที่พบการระบาดมากที่สุดของประเทศเป็นจำนวน 4,106 ราย หรือ 81%

สาเหตุเกิดจากการแพร่ระบาดของเชื้อสายพันธุ์เดลต้า หรืออินเดียเป็นสายพันธุ์หลักในเกาหลีใต้ รวมถึงนโยบายรัฐบาลเกาหลีใต้ที่ต้องการให้ประชาชนอยู่ร่วมกับโรคระบาดโควิด-19 ด้วยการผ่อนคลายมาตรการและข้อจำกัดหลายอย่างนับตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนเป็นต้นมา ด้านภาวะการติดเชื้อพุ่งทะยานถึง 4 หลักต่อวันนับตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคมจนถึงปัจจุบัน สาเหตุจากการตรวจพบการระบาดแบบคลัสเตอร์จำนวนมาก

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาดแห่งชาติเกาหลีใต้ หรือ KCDC เปิดแถลงว่า เมื่อวานนี้ ผลการตรวจเชิงลึกเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของคู่สามีและภรรยาคู่หนึ่ง และเพื่อนของคู่สามีภรรยาคู่นี้ รวมถึงลูกชายวัยรุ่นของเพื่อนคนดังกล่าว ทั้งหมด 4 รายที่มีผลตรวจเป็นบวกก่อนหน้านี้ พบว่ามี 3 รายได้รับเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน ส่งผลให้กลายเป็นการพบการติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนเป็นครั้งแรกของประเทศเกาหลีใต้

คู่สามีภรรยาที่ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนมีอายุในช่วง 40 ปี อาศัยอยู่ที่เมืองอินชอน ซึ่งเป็นเมืองรอบนอกทางทิศตะวันตกของกรุงโซล จากการตรวจสอบประวัติการเดินทาง พบว่า ทั้ง 2 รายอยู่ในประเทศไนจีเรียระหว่างวันที่ 14-23 พฤศจิกายน และเดินทางกลับจากประเทศไนจีเรียมาถึงกรุงโซลเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ที่สำคัญ สามีและภรรยาได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสมาก่อนหน้านี้แล้ว

ขณะที่ เพื่อนของคู่สามีภรรยาดังกล่าว ตรวจพบติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอไมครอนเมื่อวันอังคารที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ในขณะที่ผลการตรวจหาเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนในลูกชายจะเปิดเผยในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่จะพบการติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน หากยืนยันติดเชื้อจริง จะส่งผลให้ประเทศเกาหลีใต้พบผู้ป่วยติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน 4 ราย ที่สำคัญ จะเป็นการติดเชื้อสายพันธุ์ดังกล่าวภายในประเทศเป็นครั้งแรกอีกด้วย เนื่องจากเพิ่อนของคู่สามีภรรยา และลูกชายของเพื่อนคนดังกล่าว ไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศ

ทั้งนี้ ข้อมูลถึงวันที่ 1 ธันวาคม 2564 พบว่าประชาชนชาวเกาหลีใต้ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 อย่างน้อย 1 เข็ม มีจำนวน 42.57 ล้านคน หรือ 82.9% ของประชากรทั้งประเทศ ขณะที่ ได้รับการฉีดครบทั้ง 2 เข็ม มีจำนวน 41.06 ล้านคน คิดเป็น 79.9% ของประชากรทั้งประเทศ เกาหลีใต้ใช้วัคซีนทั้งหมด 4 ยี่ห้อ ได้แก่ แอสตร้าเซเนก้า ไฟเซอร์ โมเดอร์นา และจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน