ยุติธรรม-คลัง-กลต.สหรัฐตัดสินโทษอาญาและแพ่งรุนแรงกับไบแนนซ์และซีอีโอกว่า 150,000 ล้าน

169
0
Share:
ยุติธรรม-คลัง-กลต.สหรัฐตัดสินโทษอาญาและแพ่งรุนแรงกับ ไบแนนซ์ และซีอีโอกว่า 150,000 ล้าน

เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2023 หรือเมื่อคืนผ่านมา รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม สหรัฐอเมริกา แถลงข่าวว่า นายจ้าว ฉางเผิง ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอไบแนนซ์ (Binance) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายเงินคริปโทเคอร์เรนซี หรือเงินดิจิตอลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ถูกตัดสินมีความผิดต่อข้อกล่าวหารุนแรงหลายกระทง และยอมรับในการกระทำผิดกฎหมายอาญาโดยนายจ้าว ฉางเผิง ซีอีโอไบแนนซ์ ซึ่งพิสูจน์เป็นที่ชัดเจนว่า นายจ้าว ฉางเผิง ซีอีโอไบแนนซ์ กระทำการผิดกฎหมายอาญา 3 กระทง ได้แก่ กฎหมายว่าด้วยการต่อต้านการฟอกเงินด้วยการกระทำธุรกรรมการโอนเงินที่ไม่มีใบอนุญาต กฎหมายอำนาจเศรษฐกิจฉุกเฉินระหว่างประเทศ หรือ IEEPA ว่าด้วยการกระทำผิดกฎหมายที่ทำการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรแห่งรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ซึ่งพิสูจน์พบชัดเจนว่าทำธุรกรรมเงินคริปโทเคอร์เรนซีกับกลุ่มฮามาสติดอาวุธในปาเลสไตน์ กลุ่มอิสลามญิฮาดในปาเลสไตน์ กลุ่มอัลกออิดะห์ ประเทศอิรัก และประเทศซีเรีย และกลุ่มก่อร้ายอื่นๆ จำนวนมากที่อยู่ในบัญชีรายชื่อกลุ่มก่อร้ายของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา และกฎหมายการสมรู้ร่วมคิดกระทำความผิดเพื่อหลอกลวงนักลงทุน ว่าด้วยการกระทำของไบแนนซ์เป็นเครือข่ายโยงใยแห่งการหลอกล่วง หรือ Web of Deception

กระทรวงยุติธรรม กระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. (EC) และคณะกรรมาธิการการซื้อขายสัญญาสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้า หรือ CFTC สหรัฐอเมริกา จะเข้าดำเนินการตามผลของกฎหมายอาญา และกฎหมายแพ่งทั้งกับบริษัทไบแนนซ์ และนายจ้าว ฉางเผิง ซีอีโอไบแนนซ์ สำหรับการดำเนินคดีแพ่ง ได้ตัดสินให้ดำเนินการปรับในภาพรวมเป็นจำนวนเงินสูงถึง 4,320 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 155,520 ล้านบาท โดยบริษัทไบแนนซ์ต้องจ่ายค่าปรับชดเชยความเสียหายเป็นเงิน 1,810 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 65,160 ล้านบาทภายใน 15 เดือนจากนี้ไป และจ่ายเงินค่าสินไหมจำนวน 2,510 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 90,360 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในขั้นตอนการดำเนินคดีอาญาของกระทรวงยุติธรรม สหรัฐอเมริกา

สำหรับนายจ้าว ฉางเผิง ซีอีโอไบแนนซ์ จะถูกปรับเป็นจำนวนเงิน 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1,800 ล้านบาทตามการกระทำผิดกฎหมายอาญาด้วย นอกจากนี้ กระทรวงยุติธรรม สหรัฐอเมริกา ตัดสินลงโทษห้ามจ้าว ฉางเผิง เกี่ยวข้องกับตำแหน่งบริหารของบริษัทไบแนนซ์ ซึ่งจ้าว ฉางเผิง ยอมรับคำตัดสินดังกล่าว โดยแต่งตั้งซีอีโอคนใหม่มีชื่อว่า นายริชาร์ด เต็ง อดีตซีอีโออาบูดาบี โกลบอล มาร์เก็ต ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นหัวหน้าฝ่ายตลาดภูมิภาคของไบแนนซ์

รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง สหรัฐอเมริกา นางแจนเน็ท เยลเลน แถลงว่า ไบแนนซ์กระทำการเสมือนตาบอดในการแสวงหาผลกำไร เป็นความล้มเหลวอย่างจงใจกระทำในการผ่องถ่ายเงินจากการดำเนินธุรกิจอย่างผิดกฎหมายไปสู่กลุ่มก่อการร้าย กลุ่มอาชญากรรมในโลกไซเบอร์หรือออนไลน์ และการกระทำผิดทางศีลธรรมและกฎหมายที่มีต่อเด็กเยาวชน โดยทั้งหมดกระทำผ่านบนแพลตฟอร์มซื้อขายเงินคริปโทเคอร์เรนซีไบแนนซ์

อัยการสูงสุด นายเมอร์ริค การ์แลนด์ กล่าวแถลงว่า ไบแนนซ์เป็นแพลตฟอร์มซื้อขายเงินคริปโทเคอร์เรนซีที่ใหญ่ที่สุดในโลกมาจากส่วนหนึ่งเพราะกระทำผิดกฎหมายอาญา คำตัดสินในวันนี้ ทำให้ไบแนนซ์ต้องชดใช้มูลค่าความผิดและความเสียหายในแง่ค่าปรับของเอกชนที่มีมูลค่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2023 ผ่านมา ไบแนนซ์ (Binance) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายเงินดิจิตอลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกของมหาเศรษฐี นายจ้าว ฉางเผิง ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอไบแนนซ์ เปิดเผยว่า บริษัทร่วมลงทุนระหว่างไบแนนซ์ โฮลดิ้งส์ กับบริษัทกัลฟ์ เอนเนอยี่ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ของมหาเศรษฐีรวยอันดับ 2 ของประเทศไทย นายสารัตน์ รัตนวดี ซึ่งอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เตรียมแผนเปิดดำเนินกิจการและให้บริการเปิดซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินคริปโทเคอร์เรนซี หรือเงินดิจิทัลภายในต้นปี 2024 ในประเทศไทย หลังจากได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินคริปโทเคอร์เรนซีจากหน่วยงานกำกับดูแลในประเทศไทย

สำหรับบริษัทแห่งใหม่ที่เกิดขึ้นจากการร่วมลงทุนของทั้ง 2 ฝ่าย มีชื่อว่าบริษัท กัลฟ์ ไบแนนซ์ จำกัด ซึ่งได้รับใบอนุญาติประกอบกิจการตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินคริปโทเคอร์เรนซีจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา แพลตฟอร์มซื้อขายเงินดิจิตอล หรือเงินคริปโทเคอร์เรนซีของบริษัทดังกล่าว จะเปิดบริการให้เฉพาะนักลงทุนที่ได้รับเชิญเท่านั้น ถัดจากนั้นจะเปิดให้บริการกับนักลงทุนทั่วไปที่สนใจ

ในช่วงเวลากว่า 1 ปีที่ไบแนนซ์ และนายจ้าว ฉางเผิง ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอไบแนนซ์ เผชิญการตรวจสอบทางกฎหมายหลายข้อกล่าวหาจากกระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต.สหรัฐอเมริกา และคณะกรรมาธิการการซื้อขายสัญญาสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้า หรือ CFTC สหรัฐอเมริกา ที่ตั้งข้อกล่าวหาว่า ไบแนนซ์เป็นเครือข่ายโยงใยแห่งการหลอกล่วง หรือ Web of Deception ในขณะเดียวกันวงการตลาดทุนในยุโรปเพิ่มความเข้มงวดในธุรกิจเงินคริปโทเคอร์เรนซี รวมถึงพันธมิตรทางธุรกิจในอุตสาหกรรมบริการชำระเงินยักษ์ใหญ่ระดับโลกได้ยกเลิกธุรกรรมบริการกับไบแนนซ์

เมื่อเดือนกรกฎาคม 2023 ผ่านมา ไบแนนซ์ตัดสินใจถอนการยื่นส่งเอกสารเพื่อขอใบอนุญาตการประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มซื้อขายเงินดิจิตอล หรือเงินคริปโทเคอร์เรนซีของในประเทศเยอรมนี สาเหตุจากบาฟิน (BaFin) หรือหน่วยงานกำกับดูแลตลาดทุนของเยอรมนี ซึ่งมีหน้าที่เหมือนกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ มีความเข้มงวดในกฎระเบียบการทำธุรกิจสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

ขณะที่เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2023 ผ่านมา ไบแนนซ์ประกาศยกเลิกและปิดธุรกิจบริการแพลตฟอร์มซื้อขายเงินดิจิตอล หรือเงินคริปโทเคอร์เรนซีของในประเทศเนเธอแลนด์ สาเหตุจากไบแนนซ์พยายามที่จะปฏิบัติตามกฎระเบียบและการตรวจสอบของหน่วยงานกำกับดูแลตลาดทุนของเนเธอแลนด์มีความเข้มข้นมากขึ้น แต่ไม่สามารถเป็นไปตามกฎระเบียบได้ ด้านธนาคารกลางเนเธอแลนด์ หรือ DNB ประกาศว่าไบแนนซ์ว่า ดำเนินธุรกิจแพลตฟอร์มซื้อขายเงินดิจิตอล หรือเงินคริปโทเคอร์เรนซีโดยปราศจากการยื่นขออนุญาตอย่างถูกต้องและเหมะสม นอกจากนี้ ไบแนนซ์ยังได้ตัดสินใจปิดกิจการและถอนธุรกิจออกจากประเทศไซปรัส แคนาดา และออสเตรเลียตามมา

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนสิงหาคม 2023 มาสเตอร์การ์ด (Mastercard) อินคอร์ปอเรชั่น ผู้ให้บริการบัตรเครดิต บัตรเดบิต และเครือข่ายการชำระเงินชื่อดังในแบรนด์มาสเตอร์การ์ดระดับโลก ได้ประกาศยกเลิกการร่วมทำธุรกิจในฐานะพันธมิตรธุรกิจกับไบแนนซ์ (Binance) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายเงินคริปโทเคอร์เรนซีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกของมหาเศรษฐี นายจางเผิง จ้าว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ ไบแนนซ์ สำหรับการยกเลิกการทำธุรกิจร่วมกันในครั้งนี้ จะเป็นการยกเลิกบริการที่ลูกค้าผู้ถือบัตรมาสเตอร์การ์ดซึ่งใช้เงินคริปโทในการซื้อสินค้าหรือบริการในทุกประเทศที่อยู่ในละตินอเมริกา หรืออเมริกาใต้ และตะวันออกกลางทั้งหมด

ในขณะเดียวกัน วีซ่า (Visa) อินคอร์ปอเรชั่น ผู้ให้บริการบัตรเครดิต บัตรเดบิต และเครือข่ายการชำระเงินชื่อดังในแบรนด์วีซ่าระดับโลก ประกาศยกเลิกการร่วมทำธุรกิจในฐานะพันธมิตรธุรกิจกับไบแนนซ์ (Binance) ทั้งหมดในยุโรป

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2023 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ (SEC) หรือ ก.ล.ต.สหรัฐอเมริกา แถลงข่าวว่า ก.ล.ต.สหรัฐอเมริกา ได้ดำเนินการยื่นร้องขอต่อศาลรัฐบาลกลางแห่งกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา ให้พิจารณาออกคำสั่งฉุกเฉินมีผลทางกฎหมายให้อายัดทรัพย์สินทั้งหมดของไบแนนซ์ แพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิตอลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ไม่ว่าทรัพย์สินนั้นจะอยู่ในสหรัฐอเมริกาหรือทั่วโลก นอกจากนี้ ยังรวมถึงคำสั่งศาลสั่งให้ไบแนนซ์ดำเนินการส่งคืนธนบัตร เหรียญเงินที่ใช้ชำระได้ถูกต้องตามกฎหมาย และเงินคริปโททุกสกุลที่ไบแนนซ์ถือครองทั้งหมดด้วย

นอกจากนี้ ยังดำเนินการฟ้องร้องให้อายัดทรัพย์สินของแพลตฟอร์มไบแนนซ์ซึ่งดำเนินการภายใต้ 2 บริษัทในเครือไบแนนซ์ที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาด้วย รวมถึงสถาบันการเงินที่ไบแนนซ์มีการนำทรัพย์สินไปฝากไว้ เช่น ธนาคาร Axos, ธนาคารซิลเวอร์เกท แบงก์ ธนาคารไพรม์ ทรัสท์ และสถาบันการเงินอื่นๆ อย่างไรก็ตาม การดำเนินการฟ้องร้องดังกล่าวเกี่ยวกับการอายัดทรัพย์สินในครั้งนี้จะไม่ครอบคลุมถึงแพลตฟอร์มไบแนนซ์ที่เปิดบริการซื้อขายในต่างประเทศ

ก.ล.ต.สหรัฐอเมริกา ยังได้ฟ้องร้องเพิ่มเติมกับ 2 สถาบันการเงินซึ่งถูกควบคุมโดยนายจ้าว ฉางเผิง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารไบแนนซ์ มีชื่อว่า ซิกม่า เชน (Sigma Chain) และเมอริท พีค (Merit Peak)

ขณะที่เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2023 ก.ล.ต.สหรัฐอเมริกา ได้ดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลรัฐบาลกลางแห่งกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. กับนายจ้าว ฉางเผิง ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอไบแนนซ์ (Binance) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายเงินดิจิตอลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยทำการฟ้องร้องถึง 13 คดีทั้งนายจ้าว ฉางเผิง ซีอีโอ และบริษัทไบแนนซ์ ในการกระทำผิดในลักษณะ “เครือข่ายแห่งการหลอกลวง ฉ้อโกง และฉ้อฉลอย่างมากมาย หรือ Web of Deception” การขัดแย้งแห่งประโยชน์แท้จริงทางธุรกิจ การละเลยในการเปิดเผยข้อมูล และการหลบเลี่ยงกฎระเบียบและกฎหมายกำกับดูแลตลาดสินทรัพย์ดิจิตอล

นายแกรี่ เกนสเลอร์ ประธานสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ หรือ SEC สหรัฐอเมริกา กล่าวแถลงว่า สำหรับการฟ้องร้องดำเนินคดีดังกล่าวนั้น ก.ล.ต.สหรัฐอเมริกา พบข้อมูลแท้จริงเกี่ยวกับนายจ้าว ฉางเผิง และไบแนนซ์ทำการสร้างปริมาณธุรกรรมการซื้อขายมากเกินความเป็นจริงตามที่ก.ล.ต.ทำการสืบสวนและสอบสวนข้อเท็จจริงทั้งหมด นอกจากนี้ กระทำการผิดกฎหมายการลงทุนด้วยการโยกย้ายเงินทุนของลูกค้าผู้ใช้บริการ กระทำการล้มเหลวในการจำกัดลูกค้าที่ทำการซื้อขายจากในสหรัฐอเมริกาลนแพลตฟอร์มไบแนนซ์ และกระทำการหลอกลวง ชี้นำให้เกิดนักลงทุนเกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับระบบควบคุมและเฝ้าระวังตลาดการลงทุนสินทรัพย์ดิจิตอล เป็นต้น

นอกจากนี้ ทั้งบริษัทไบแนนซ์ และซีอีโอไบแนนซ์ นายจ้าว ฉางเผิง กระทำการควบคุมและซ่อนเร้นสินทรัพย์ของนักลงทุน ทำให้ทั้งบริษัทไบแนนซ์ และซีอีโอไบแนนซ์ สามารถทำการโอนย้าย หรือผ่องถ่ายเงินทุนของนักลงทุนตราบเท่าที่ต้องการกระทำผิด

ก.ล.ต.สหรัฐอเมริกา แถลงต่อไปว่า นับเป็นเวลาเกือบ 3 ปีติดต่อกันมาถึงเดือนมิถุนายน 2022 ที่แพลตฟอร์มไบแนนซ์ในสหรัฐอเมริกากระทำการซื้อขายในลักษณะเรียกว่า Wash Trading หรือการสร้างปริมาณการซื้อขายเทียมของสินทรัพย์ดิจิตอล จากการสอบสวน พบว่า ซิกม่า เชน ซึ่งเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องการกระทำธุรกรรมเทียมดังกล่าวบนเรือยอชท์ด้วยมูลค่าสูงถึง 11 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 385 ล้านบาท