รมว.เกษตรฯเตรียมเสนอข้อเรียกร้องกลุ่มประมงให้นายกฯพิจารณาสัปดาห์หน้า

870
0
Share:

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยหลังสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย เข้าพบเรียกร้องเพื่อเสนอขอความช่วยเหลือจากนายกรัฐมนตรี ว่า ตนในฐานะผู้แทนนายกรัฐมนตรีในการรับมอบหนังสือร้องเรียนจากสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ที่ยื่นขอให้รัฐบาลได้มีการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ โดยได้มีการพูดคุยหารือ และจะทำสรุปข้อเรียกร้องเพื่อนำเรียนนายกรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า
.
กระทรวงเกษตรฯไม่ได้นิ่งนอนใจ ต่อข้อเรียกร้องสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ยืนยันจะทำสรุปข้อเรียกร้องเพื่อนำเรียนนายกรัฐมนตรีต่อไป ซึ่งคาดว่าจะสามารถนำเรียนได้ภายในสัปดาห์หน้า พร้อมทั้งเร่งดำเนินการเรื่องสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการประมง กรอบวงเงิน 10,300 ล้านบาท ที่ผ่านครม.แต่ยังติดขัดปัญหาอยู่ นำเงินออกจากระบบมีปัญหา
.
ซึ่งในข้อนี้เป็นประเด็นหลัก ของปัญหาทั้งหมด ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการดำเนินงานของธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โดยจะประสานงานและเร่งดำเนินการแก้ไขให้โดยเร็ว
.
ข้อเสนอและข้อเรียกร้องดังกล่าวขณะนี้สภาผู้แทนราษฏรรับเรื่องและได้ ซึ่งได้แต่งตั้งคณะทำงานแล้ว ส่วนกรณีกรมประมงดำเนินการได้ก็ให้ไปดูแลอย่างเร่งด่วน ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ จะเร่งรัดดำเนินการซื้อเรือคืน แต่ปัญหาที่ผ่านมา ยอมรับว่าปริมาณที่ซื้อมีจำนวนมาก โดยระยะที่ 3 มีมากกว่า 2,500 ลำ ดังนั้น ต้องรองบประมาณอีกหลายพันล้านบาท
.
.
ด้านนายกำจร มงคลตรีลักษณ์ ประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย กล่าวว่า รัฐบาลออกกฎหมาย ระเบียบต่างๆ มาบังคับใช้กับชาวประมงเพื่อแก้ไขปัญหา ไอยูยู มากว่า 6 ปี แต่ชาวประมงยังเผชิญกฎ ระเบียบรัฐบาล บังคับใช้มาโดยตลอด ซึ่งขณะนี้ ชาวประมง 22 จังหวัด ได้ยืนยันขายเรือคืนไปแล้วประมาณ 2,500 ลำ
.
คาดว่าทั้งประเทศจะมีการขายเรือคืนไม่ต่ำกว่า 5,000 ลำ จากเรือที่มีทั้งระบบ ประมาณ 12,000 ลำ ซึ่งหากชาวประมงขายเรือคืน 5,000 ลำ รัฐบาลจะมีทรัพยากรที่ยั่งยืน ดังนั้นถ้ากฎหมายและกฎระเบียบยังเป็นลักษณะนี้ ชาวประมงก็พร้อมที่จะขายเรือคืนทั้งระบบ และจะเลิกอาชีพชาวประมงทันทีเพราะทำต่อไม่ไหว รวมทั้งจะได้ไม่ต้องมาเรียกร้องกันบ่อยๆ
.
นอกจากนี้ ส่วนหนึ่งที่ชาวประมงได้รับผลกระทบเนื่องจากธนาคารที่ต้องปล่อยสินเชื่อให้กับชาวประมง ยังไม่มีความคืบหน้า เหมือนเป็นการขายฝันให้กับชาวประมง
.
สำหรับ มูลค่าความเสียหายในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา ชาวประมงบางส่วนไม่ได้ทำการประมงประมาณ 3,000 ลำ หรือสร้างความเสียไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาทต่อเดือน ขาดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจประกอบกับช่วงโควิด-19 ยิ่งซ้ำเติม ไม่ใช่เพียงชาวประมงที่ได้รับความเสียหาย ยังกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมประมงทั้งระบบ สร้างความเสียหายรวมไม่ต่ำกว่า 3 แสนล้านบาท
.
ดังนั้น ชาวประมงจึงจำเป็นต้องเลิกอาชีพ และรัฐบาลต้องชดใช้ เยียวยา ด้วยการรับซื้อเรือประมงไปพร้อมทั้งเครื่องมือทำประมงในราคา 100% เพราะมาตรการของรัฐได้ทำลายอาชีพของชาวประมงทั้งประเทศโดยไม่ได้รับการเหลียวแล แต่ถ้ารัฐบาลยังมองเห็นความสำคัญ ก็ขอให้แก้ไขกฎหมาย ผ่อนคลายกฎ ระเบียบที่ไม่เป็นธรรมโดยเร็วหากรัฐบาลยังเพิกเฉย ไม่หยุดออกกฎระเบียบออกมาบังคับอย่างไม่มีบังคับ ชาวประมงอาจต้องเลิกอาชีพ
.
ดังนั้น สมาคมจึงขอเรียกร้อง 3 ข้อ เร่งด่วน ได้แก่
1.เร่งปรับปรุงพระราชกำหนดประมง พ.ศ.2558 เพื่อนำเข้าสูสภาผู้แทนราษฎร และขอให้มีตัวแทนเข้าแก้ไขกฎหมาย
.
2.ขอให้ตั้งคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาประมงระดับชาติ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพราะที่ผ่านมาไม่มีกรรมการชุดไหนจริงใจต่อชาวประมงสักคณะ เพียงแค่ซื้อเวลาไปเรื่อยๆ จนไม่สามารถประกอบอาชีพต่อไปได้
.
3.ขอให้ยกเลิกกรรมการเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาทำประมงผิดกฎหมาย (ฉ1) และติดตามแรงงานภาคประมง (ฉ2) และขอให้นายกรัฐมนตรีเป็นประธานแก้ไขปัญหาประมงระดับชาติแทน
.
หากไม่มีสัญญาณตอบรับ หรือได้รับคำตอบจากรัฐบาล 7-10 วัน นับจากวันนี้ จะนำม็อบกว่า 1 แสนคนมาพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล เพราะตอนนี้ก็มีแต่หนี้สิน อาชีพประมงเสียหายไปหมดแล้วถ้าไม่เยียวยาก็ต้องล้มหายตายจาก