รองนายกฯ สุพัฒนพงษ์ชี้ไปเอากำไรจากปตท.มาแก้ปัญหาน้ำมันแพงไม่ได้ ไม่ได้แก้ตัวแทนปตท.

วันนี้ 25 พฤศจิกายน 2564 นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ชี้แจงตามกระทู้ถามสดเรื่องการแก้ปัญหาราคาน้ำมันดีเซลแพงและกระทบกับประชาชน รวมถึงผู้ให้บริการด้านการขนส่ง ซึ่งถามโดยนายอัครเดช วงศ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส. ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ เกี่ยวกับข้อเสนอให้ราคาน้ำมันดีเซลต่ำกว่าลิตรละ 30 บาท โดยใช้กลไกรัฐ รวมถึงเสนอให้ปตท.ในฐานะรัฐวิสาหกิจ มีรัฐบาลถือหุ้นส่วนใหญ่ แบ่งกำไรช่วยเหลือประชาชนได้อย่างไรบ้าง มากกว่าแสวงหากำไร เพราะเป็นกำไรบนคราบน้ำตาของประชาชน ควรให้ปตท.ชดเชยค่าน้ำมันดีเซลให้ประชาชน

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า สิ่งที่ได้ตจากปตท.ตลอด 9 เดือน เป็นเงิน 5.6 หมื่นล้านบาท คือเงินปันผลที่รัฐบาลได้รับและเงินภาษี โดยเงินนี้จะออกมาในรูปแบบของการช่วยเหลือด้านต่าง ๆ เช่น กองทุนน้ำมัน ราคาขายน้ำมันที่สถานีบริการน้ำมันปตท.ราคาต่ำที่สุด เมื่อเทียบกับเอกชนรายอื่น ๆ แต่ยอมรับว่าอาจมีสิ่งที่ขาดตกบกพร่อง ดังนั้น กมธ.ของสภาฯ สามารถเรียกให้ชี้แจงได้

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ชี้แจงการทำงานของปตท.คือการดูแลเสถียรภาพให้ประชาชนมั่นใจว่ามีพลังงานใช้ในต้นทุนที่เหมาะสม ซึ่งปัจจุบันปตท.มีหนี้สินสูงถึง 1.5 ล้านล้านบาท เมื่อเทียบกำไรใน 9 เดือน เป็นกำไรที่เกิดจากการเพิ่มมูลค่าน้ำมัน ต้องเก็บไว้ 2 หมื่นล้านบาท กำไรเพียง 5.5 หมื่นล้านบาท ทั้งปีอาจได้ 8 หมื่นล้านบาทจากผลประกอบการ ซึ่งกำไรไม่มาก หากนำกำไรของปตท. สนับสนุนมาตรการของรัฐบาล เช่น สนับสนุนดีเซล ทำไม่ได้

ทั้งนี้ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ชี้แจงต่อไปว่า ผมทำงานเป็นกลาง และเน้นประโยชน์ประชาชนของประเทศ ปตท.คือรัฐวิสาหกิจ หากเรียกไม่มาก็ตามได้ พร้อมกำชับไปแล้วว่าให้ไปทุกครั้งที่เรียก ยืนยันไม่ได้ตอบคำถามแทนปตท. แต่ขอให้เชื่อมั่นในรัฐวิสาหกิจไทยในตลาดหลักทรัพย์ ที่ทำหน้าที่ดูแลประชาชน แต่ไม่สามารถนำกำไรทั้งหมดมาช่วยประชาชนได้ เพราะมีผู้ถือหุ้นรายอื่นด้วย อีกทั้งขัดต่อกฎหมาย