รัฐมนตรีคลังนั่งไม่ติด ถามจี้ทั้ง ก.ล.ต.และตลาดหุ้นไทย เอาผิดทุกรูปแบบ

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เข้ามารายงานสถานการณ์และความคืบหน้าการดำเนินการกรณีบริษัท สตาร์ค คอเปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK ที่มีการตกแต่งบัญชีเทียม

เรื่องนี้เราก็ร้อนใจ ก็บอกเขาแล้วว่า หนึ่งต้องเร่งรัด เพื่อให้เกิดความมั่นใจ และใครผิดก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย ซึ่งในต้นสัปดาห์หน้านี้ ก.ล.ต. และตลท.จะร่วมกันแถลงผลการดำเนินการว่าขณะนี้ขั้นตอนเป็นอย่างไรบ้างแล้ว และจะมีการชี้แจงมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นด้วย โดยได้ย้ำไปทางก.ล.ต. และตลท. ให้เร่งดำเนินการอย่างรวดเร็ว และให้ดำเนินการเอาผิดในทุกกรณี

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวต่อไปว่า ก.ล.ต. และตลท.รายงานความคืบหน้าว่าขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการตรวจสอบหุ้น STARK เราจึงได้เร่งให้ทั้ง 2 หน่วยงานดำเนินการอย่างรวดเร็ว หากพบว่ามีผู้ทำผิด ต้องดำเนินการตามกฎหมาย และเอาผิดในทุกกรณี

นอกจากนี้ ยังได้ขอให้ ก.ล.ต. และตลท. ประสานงานกันปรับปรุงอีโคซีสเต็มของระบบการกำกับดูแลบริษัทจดทะเบียน เพื่อให้สามารถตรวจสอบความผิดปกติได้อย่างรวดเร็วขึ้น ส่วนการดูแลนักลงทุนรายย่อยนั้น เป็นไปตามหลักการอยู่แล้วที่ว่าจะต้องดูแลนักลงทุนเป็นอันดับแรก และก.ล.ต.เป็นหน่วยงานที่เป็นแนวป้องกันในอันดับสอง ซึ่งหมายความว่า การคุ้มครองนักลงทุนต้องมาเป็นอันดับแรก

ก่อนหน้านี้ กรณีหุ้น STARK นั้น ตลท.ได้แจ้งเตือนนักลงทุน ขอให้ผู้ลงทุนใช้ความระมัดระวังในการซื้อขายหลักทรัพย์STARK โดยศึกษารายละเอียดงบการเงินฉบับเต็ม รายงานของผู้สอบบัญชีที่ไม่แสดงความเห็นต่องบการเงิน สาเหตุและแนวทางจัดการของบริษัท สรุปผลการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ (special audit) และข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับSTARK

สำหรับ STARK เป็นบริษัททำธุรกิจขายสายไฟ สายเคเบิล จดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นไทย ก่อนหน้าที่จะโดนพักการซื้อขาย บริษัทนี้มีมูลค่าราว 31,000 ล้านบาท โดย STARK ไม่สามารถส่งงบการเงินปี 2565 ได้ตามกำหนด บวกกับเดือนก่อน คณะกรรมการชุดเดิมของ บริษัท ได้มีการแจ้งลาออกพร้อมกันไปแล้ว 7 คน รวมถึงมีการเปลี่ยน CFO และผู้ควบคุมดูแลทำบัญชีด้วย และบริษัทไม่สามารถปิดงบการเงินได้ เนื่องจากผู้สอบบัญชี หรือ PwC พบความผิดปกติในงบการเงิน โดยการเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของหุ้น STARK นั้น ไม่ได้ดำเนินการทำ IPO ตามปกติ แต่เป็นการเข้ามาจดทะเบียนในลักษณะของ back door listing ผ่าน บริษัท T A Holding 2 จำกัด ซึ่งบริษัทนี้เข้าไปซื้อกิจการของบริษัท Phelpd Dodge International ( Thailand) เป็นบริษัทสัญชาติสหรัฐ เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสายไฟฟ้า ซึ่งมีการประกอบกิจการในประเทศไทยต่อมาบริษัทนี้ ได้เข้าซื้อหุ้นของ SMM เพื่อทำ backdoor listing และเป็นชื่อSMM เป็น STARK