ราคาทองคำตลาดโลกส่งมอบทันที(Gold Spot) ในเอเชีย พุ่งสูงสุดแตะ 2,395.48 เป็นประวัติศาสตร์

29
0
Share:
ราคา ทองคำโลก ส่งมอบทันที(Gold Spot) ในเอเชีย พุ่งสูงสุดแตะ 2,395.48 เป็นประวัติศาสตร์

ตลาดซื้อขายทองคำโลกในเอเชียที่ประเทศสิงค์โปร์ รายงานว่า วันนี้ 12 เมษายน 2024 เวลา 17.00 น. ตามเวลาในสิงคโปร์ พบว่า ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ทะยานขึ้นที่ระดับ 2,395.48 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดระหว่างวันมากเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ในตลาดเอเชีย หรือ +33.95 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +1.7% หรือ +1.2% ก่อนจะอ่อนลงเล็กน้อยมาปิดที่ระดับ 2,388.69 เพิ่มขึ้น +16.69 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.4% เมื่อเทียบกับราคาปิดที่ตลาดนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ในคืนผ่านมาที่ 2,372.00 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +33.95 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +1.7% ทำสถิติปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ ขณะที่ราคาสูงสุดระหว่างวันในคืนผ่านมาพุ่งขึ้นแตะระดับ 2,377.75 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดระหว่างวันเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่

สาเหตุจาก วอลสตรีท เจอร์นัล สื่อเศรษฐกิจ และการเมืองระหว่างประเทศชื่อดังระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา รายงานว่า กองทัพอิสราเอลเตรียมเปิดปฏิบัติการโจมตีรอบใหม่ในอีก 2 วันข้างหน้าเพื่อเป็นการล้างแค้นกรณีอิหร่านกล่าวหา และข่มขู่การโจมตีสถานทูตรวมถึงเจ้าหน้าที่สถานทูตของอิสราเอล

ราคาทองคำตลาดโลกในสัปดาห์นี้ กำลังจะทำสถิติราคาทองคำรายสัปดาห์ที่ปิดบวกติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 4 ทำสถิติราคารายสัปดาห์ปิดขึ้นยาวนานในรอบ 1 ปี 3 เดือน หรือนับตั้งแต่ต้นปี 2023 เป็นต้นมา

ย้อนกลับไปในคืนผ่านมา ตลาดซื้อขายทองคำโลก นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2024 ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา พบว่า ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 2,372.00 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +33.95 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +1.7% ทำสถิติปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ ขณะที่ราคาสูงสุดระหว่างวันในคืนผ่านมาพุ่งขึ้นแตะระดับ 2,377.75 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดระหว่างวันเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ ขณะที่ราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ระดับ 2,390.00 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +33.70 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +1.8% ทำสถิติราคาปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ ครั้งใหม่

สาเหตุจากนักลงทุนหวนเข้าซื้อทองคำอย่างคึกคักหลังจากอัตราเงินเฟ้อผู้ผลิตทั่วไปและขั้นพื้นฐานเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้นต่ำกว่าที่คาดไว้ โดยเพิ่มขึ้นเพียง 0.2% เทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ ไม่ได้มากกว่าคาดการณ์ที่ระดับ 0.3%

ทั้งนี้ ตัวชี้วัดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า โอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นลงในเดือนมิถุนายนนี้อยู่ที่ 53% จากเดิมที่ 52%