ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปิดลงแคบๆ ยังสูงในรอบ 10 เดือน หยุดราคาขึ้น 3 วันคิดเกือบ 3 ดอลล์

144
0
Share:
ราคา น้ำมันดิบ ตลาดโลกปิดลงแคบๆ ยังสูงในรอบ 10 เดือน หยุดราคาขึ้น 3 วันคิดเกือบ 3 ดอลล์

ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2023 ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา พบว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 91.20 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.28 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล แต่ในช่วงระหว่างวัน มีราคาพุ่งสูงสุดแตะที่ 93.74 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล อย่างไรก็ตาม ราคาปิดที่ลดลงส่งผลหยุดราคาน้ำมันดิบปิดเพิ่มขึ้น 3 วันติดต่อกันรวม +2.96 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาปิดสูงสุดในรอบ 10 เดือน หรือตั้งแต่พฤศจิกายนปี 2022

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ สหรัฐอเมริกา พุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 94.34 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.09 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล แต่ในช่วงระหว่างวัน มีราคาพุ่งสูงสุดแตะที่ 93.74 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล อย่างไรก็ตาม ราคาปิดที่ลดลงส่งผลราคาน้ำมันดิบปิดเพิ่มขึ้น 3 วันติดต่อกันรวม +2.55 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบปิดสูงสุดในรอบ 9 เดือน 3 สัปดาห์ หรือตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2022 เป็นต้นมา

ในปี 2022 ผ่านไปราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สาเหตุจากนักลงทุนขายเพื่อทำกำไรในช่วงสั้นๆ หลังจากราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นในช่วง 3 วันติดต่อ นักลงทุนยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะตลาดน้ำมันดิบตึงตัว หลังจากกลุ่มโอเปกพลัสเปิดเผยรายงานสถานการณ์น้ำมันดิบประจำเดือน พบว่า ประเมินความต้องการบริโภคน้ำมันดิบทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นอีกวันละ 2.24 ล้านบาร์เรลในปีนี้ ในขณะที่ประเมินปีหน้า 2024 ทั้งความต้องการบริโภคจะเพิ่มขึ้น 2.25 ล้านบาร์เรล และปริมานการผลิตน้ำมันดิบทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากประเมินสัญญาณฟื้นตัวของประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่

สอดรับกับสำนักงานข้อมูลพลังงาน สหรัฐอเมริกา หรืออีไอเอ เปิดเผยว่า ในปีนี้ 2023 ปริมาณน้ำมันดิบที่ผลิตได้ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 101.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน และในปีหน้า 2024 จะเพิ่มขึ้นเป็น 102.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน ท่ามกลางความต้องการบริโภคน้ำมันดิบทั่วโลกในปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 101 ล้านบาร์เรลต่อวัน และในปีหน้า 2024 จะเพิ่มขึ้นเป็น 102.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในอดีตผ่านมา ทั่วโลกทำสถิติเป็นประวัติการณ์ทั้งปริมาณการผลิตน้ำมันดิบ และการบริโภคน้ำมันดิบ โดยในปี 2018 มีปริมาณการผลิตน้ำมันดิบทั่วโลกที่วันละ 100.5 ล้านบาร์เรล ส่วนในปี 2019 มีความต้องการการบริโภคน้ำมันดิบอยู่ที่ วันละ 100.8 ล้านบาร์เรล

อีไอเอ ยังคาดการณ์ต่อไปว่า สต็อกน้ำมันดิบทั่วโลกจะลดลงถึงเกือบ 500,000 บาร์เรลต่อวันในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ส่งผลให้ประเมินราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ จะมีราคาเฉลี่ยในไตรมาสที่ 4 ปีนี้ สูงถึง 93 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนักปัจจัยซาอุดีอาระเบียประกาศลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบต่อเนื่อง โดยลดผลิตลงวันละ 1 ล้านบาร์เรลอีก 3 เดือน มีผลตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงธันวาคม 2023 สอดคลัองกับรัฐบาลประเทศรัสเซียประกาศลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบต่อเนื่อง โดยลดผลิตลงวันละ 300,000 บาร์เรลอีก 3 เดือน มีผลตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงธันวาคม 2023 เช่นเดียวกัน ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกพลัสจะลดลงถึงวันละ 1.3 ล้านบาร์เรลนับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2023

การประกาศลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบมากที่สุดในโลก และรัสเซียซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบนอกกลุ่มโอเปกที่มากที่สุดในโลก รวมกันวันละ 1.3 ล้านบาร์เรลต่อไปอีก 3 เดือน กลายเป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายของตลาดพลังงานโลก เนื่องจากเดิมคาดการณ์ว่าทั้ง 2 ประเทศจะลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบถึงเดือนตุลาคมเท่านั้น