ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกร่วงต่ำสุดใน 1 สัปดาห์หลุด 94 ดอลล์ รับแบงก์ชาติสหรัฐตรึงดอกเบี้ย

164
0
Share:
ราคา น้ำมันดิบ ตลาดโลกร่วงต่ำสุดใน 1 สัปดาห์หลุด 94 ดอลล์ รับแบงก์ชาติสหรัฐตรึงดอกเบี้ย

ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2023 ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา พบว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 90.28 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.92 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -1.0% ส่งผลราคาน้ำมันดิบปิดลดลง 2 วันติดต่อกันรวม -1.20 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล อย่างไรก็ตาม ยังคงเป็นราคาปิดสูงสุดในรอบ 10 เดือน หรือตั้งแต่พฤศจิกายนปี 2022

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ สหรัฐอเมริกา พุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 93.53 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.81 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.9% ส่งผลราคาน้ำมันดิบปิดลดลง 2 วันติดต่อกันรวม -0.90 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล กลายเป็นราคาน้ำมันปิดต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ผ่านมา หรือตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน อย่างไรก็ตาม ยังคงเป็นราคาน้ำมันดิบสูงสุดในรอบ 10 เดือน หรือตั้งแต่พฤศจิกายนปี 2022

ในปี 2022 ผ่านไปราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สาเหตุจากธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด ตรึงดอกเบี้ยระยะสั้นเป็นครั้งแรกในการขึ้นดอกเบี้ยดังกล่าวต่อเนื่อง 11 ครั้งผ่านมา ส่งผลอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวทรงตัวในระดับสูงกว่า 22 ปี ระหว่าง 5.25% – 5.50% อย่างไรก็ตาม เฟดส่งสัญญาณชัดเจนว่าจะต้องขึ้นดอกเบี้ยดังกล่าวอีก 1 ครั้งในสิ้นปีนี้ ทำให้อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นจะขึ้นไปถึงระหว่าง 5.50% – 5.75%

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนขายเพื่อทำกำไรในช่วงสั้นๆ หลังจากราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นในช่วง 3 วันติดต่อ นักลงทุนยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะตลาดน้ำมันดิบตึงตัว หลังจากกลุ่มโอเปกพลัสเปิดเผยรายงานสถานการณ์น้ำมันดิบประจำเดือน พบว่า ประเมินความต้องการบริโภคน้ำมันดิบทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นอีกวันละ 2.24 ล้านบาร์เรลในปีนี้ ในขณะที่ประเมินปีหน้า 2024 ทั้งความต้องการบริโภคจะเพิ่มขึ้น 2.25 ล้านบาร์เรล และปริมานการผลิตน้ำมันดิบทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากประเมินสัญญาณฟื้นตัวของประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่

อีไอเอ ยังคาดการณ์ต่อไปว่า สต็อกน้ำมันดิบทั่วโลกจะลดลงถึงเกือบ 500,000 บาร์เรลต่อวันในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ส่งผลให้ประเมินราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ จะมีราคาเฉลี่ยในไตรมาสที่ 4 ปีนี้ สูงถึง 93 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนักปัจจัยซาอุดีอาระเบียประกาศลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบต่อเนื่อง โดยลดผลิตลงวันละ 1 ล้านบาร์เรลอีก 3 เดือน มีผลตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงธันวาคม 2023 สอดคลัองกับรัฐบาลประเทศรัสเซียประกาศลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบต่อเนื่อง โดยลดผลิตลงวันละ 300,000 บาร์เรลอีก 3 เดือน มีผลตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงธันวาคม 2023 เช่นเดียวกัน ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกพลัสจะลดลงถึงวันละ 1.3 ล้านบาร์เรลนับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2023

การประกาศลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบมากที่สุดในโลก และรัสเซียซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบนอกกลุ่มโอเปกที่มากที่สุดในโลก รวมกันวันละ 1.3 ล้านบาร์เรลต่อไปอีก 3 เดือน กลายเป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายของตลาดพลังงานโลก เนื่องจากเดิมคาดการณ์ว่าทั้ง 2 ประเทศจะลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบถึงเดือนตุลาคมเท่านั้น