ราล์ฟ ลอเรนปิดกว่า 100 สาขาในจีน

ราล์ฟ ลอเรน เสื้อผ้าแบรนด์เนมสุดหรูหราสไตล์อเมริกันชื่อดังในสหรัฐ เปิดเผยว่า ได้ปิดสาขาเป็นจำนวน 2 ใน 3 หรือกว่า 66% ของสาขาทั้งหมด หรือมากกว่า 110 สาขาในจีนแผ่นดินใหญ่ และมีความเป็นไปได้สูงมากที่จะได้รับผลกระทบกับธุรกิจในตลาดจีนแผ่นดินใหญ่และประเทศอื่นๆในแถบเอเชียมากกว่าที่คาดไว้ โดยมูลค่าความเสียหายจากยอดขายอาจมีตั้งแต่ 55-70 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,733-2,205 ล้านบาทในช่วงไตรมาสที่ 4 ของงบประมาณบริษัทปี 2020 ส่งผลกระทบถึงตัวเลขรายได้จากการดำเนินธุรกิจในตลาดเอเชียทรุดหนักถึง 35 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1,103 ล้านบาท เหลือเพียง 45 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,418 ล้านบาท ทั้งนี้ ตลาดจีนคิดเป็นมากกว่า 4% ของรายได้ราล์ฟ ลอเรน
.
สำหรับผลกระทบทางเศรษฐกิจโลกนั้น ธนาคารเอชเอสบีซี ซึ่งเป็นธนาคารยักษ์ใหญ่และชื่อดังระดับโลก ประกาศปรับลดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือตัวเลขเป้าจีดีพีจีนแผ่นดินใหญ่ในไตรมาส 1 ปีนี้ลงทากถึง -1.7% ส่งผลให้จีดีพีจีนจากเดิม 5.8% เหลือ 4.1% ในไตรมาสที่ 1 ปี 2563 นอกจากนี้ ธนาคารเอชเอสบีซีปรับลดเป้าจีดีพีจีนตลอดทั้งปี 2563 ลง -0.5% ส่งผลให้ตัวเลขจีดีพีจีนทั้งปี 2563 จากเดิม 5.8% ลงมาเหลือ 5.3% และปรับลดเป้าจีดีพีเศรษฐกิจโลกในปีนี้เหลือเพียง 2.3% จากเดิมที่ประเมินไว้ที่ 2.5% สาเหตุจากภาวะโรคระบาดไวรัสโควิด19 ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อภาคการค้าระหว่างประเทศ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมรับช่วงผลิตของจีนแผ่นดินใหญ่
.
เจซีบี ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเครื่องจักรกลและอุปกรณ์การก่อสร้างใหญ่ที่สุดในประเทศอังกฤษ ประกาศลดชั่วโมงการทำงานของพนักงานจำนวน 4,000 คน จากเดิม 39 เหลือ 34 ชั่วโมง/สัปดาห์ สาเหตุจากโรคระบาดไวรัสโควิด19 ส่งผลให้โรงงานในอุตสาหกรรมเหล็ก และผลิตชิ้นส่วนในจีนแผ่นดินใหญ่ ยังคงปิดทำการต่อเนื่อง จึงเกิดผลกระทบทำให้ชิ้นส่วนและอะไหล่เครื่องจักรกลหนักจากจีนแผ่นดินใหญ่ไม่สามารถผลิตและส่งออกมาให้บริษัทเจซีบีได้ มีผลต่อกำลังการผลิตในอังกฤษอย่างมาก