ลิขสิทธิ์ไทยแทร่ ! กรมทรัพย์สินทางปัญญา ออกโรงตรวจเข้มสินค้าละเมิดทุกด่านชายแดน

171
0
Share:

กรณีที่มีข่าวการนำเข้ากางเกงลายช้างที่ผลิตจากต่างประเทศ มาจำหน่ายในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิทธิของเจ้าของลิขสิทธิ์ และทำให้ผู้ประกอบการไทยเสียโอกาสทางการค้านั้น ล่าสุด นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการด่วนให้ กรมทรัพย์สินทางปัญญาเร่งตรวจสอบกรณีดังกล่าว เพื่อปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาและผลประโยชน์ของคนไทย

นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า กรมฯ ได้เร่งดำเนินการทันที โดยจากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า กางเกงช้างซึ่งมีลวดลายเป็นเอกลักษณ์แบบศิลปะไทยเป็นที่นิยมแพร่หลาย โดยเฉพาะในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเยือนไทยต้องหาซื้อมาสวมใส่ หรือติดมือ เป็นของฝากนั้น ลวดลายช้างดังกล่าวได้มีการสร้างสรรค์โดยคนไทย ส่วนหนึ่งมีการยื่นแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์กับ กรมทรัพย์สินทางปัญญาไว้แล้ว บุคคลอื่นจะนำลวดลายดังกล่าวไปทำซ้ำ ดัดแปลง หรือใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ไม่ได้

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2567 อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญามอบหมายเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบย่านการค้าสำคัญ เพื่อตรวจสอบและให้ความรู้ความเข้าใจถึงความสำคัญของทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อปกป้องผลประโยชน์และความคิดสร้างสรรค์ของคนไทย รวมทั้งได้ให้ข้อแนะนำแก่ผู้ค้าว่าควรตรวจสอบสินค้าก่อนนำมาจำหน่าย โดยคำนึงถึงแหล่งที่มาของสินค้าว่าเป็นของที่ผลิตในประเทศหรือต่างประเทศ ซึ่งการค้าในปัจจุบันจำเป็นต้องแข่งขันกันด้วยคุณภาพสินค้า และกางเกงลายช้างที่ผลิตในประเทศไทยก็มีคุณภาพสูงและมีปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น การสนับสนุนสินค้าของผู้ประกอบการไทยจึงเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยสร้างรายได้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในประเทศ

นอกจากนี้ กรมทรัพย์สินทางปัญญายังได้ร่วมกับกรมศุลกากร เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบการนำเข้าสินค้าต้องสงสัยว่าอาจเข้าข่ายการละเมิดลิขสิทธิ์ในทุกด่านชายแดนของไทย พร้อมหารือหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องวางมาตรการปราบปรามสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ในท้องตลาดอย่างจริงจัง ซึ่งไม่ใช่แค่เฉพาะกางเกงลายช้างเท่านั้น แต่ยังรวมถึงลวดลายอื่นๆ เช่น แมวโคราช ปลาทูแม่กลอง ก็จะเร่งดำเนินการในลักษณะเดียวกันต่อไป

สำหรับกรณีหากตรวจสอบพบว่ามีการละเมิดลิขสิทธิ์โดยตรง จะมีโทษปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 200,000 บาท หากเป็นการกระทำเพื่อการค้า มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 4 ปี หรือปรับตั้งแต่ 100,000 บาท ถึง 800,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ