ลุ้นไม่ขึ้นดอกเบี้ย! กูรูคาดประชุม กนง. วันนี้ จะมีมติคงดอกเบี้ย 2.50% เงินเฟ้อลด เศรษฐกิจทยอยฟื้น

133
0
Share:

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินกนง. ) ในวันนี้ 29 ..66 กนง.จะคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.50% เนื่องจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อลดลงอย่างมาก และเศรษฐกิจไทยยังทยอยฟื้นตัวแม้เป็นไปในลักษณะเปราะบางสะท้อนผ่านตัวเลขเศรษฐกิจ หรือจีดีพีในไตรมาส 3 ปี 66 ที่ขยายตัวต่ำกว่าคาด

ขณะที่ เมื่อมองไปข้างหน้า กนง. มีแนวโน้มคงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.50% ไปตลอดทั้งปี 67 หากเศรษฐกิจไทยในปีหน้าฟื้นตัวต่อเนื่องและขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่าปี 66 โดยทิศทางเศรษฐกิจไทยในปี 67 มีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยวเป็นปัจจัยสนับสนุน

นอกจากนี้ ภาคการส่งออกของไทยในปีหน้าก็คาดว่าจะกลับมาเติบโตได้ในแดนบวก โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยฐาน อีกทั้ง มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐซึ่งคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในปี 67 ก็คงจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยหนุนการบริโภคภายในประเทศให้ยังขยายตัวได้

ส่วนเงินเฟ้อไทยเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะยังทรงตัวอยู่ในกรอบเป้าหมายของกนง. ที่ 1-3% ต่อไปในปี 67 โดยแม้ว่าอัตราเงินเฟ้อของไทยในปัจจุบันได้ปรับตัวลดลงเป็นอย่างมาก

แต่ในระยะข้างหน้ายังคงมีความเสี่ยงที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกอาจเพิ่มสูงขึ้นซึ่งคงจะก่อให้เกิดความท้าทายต่อการดำเนินมาตรการบรรเทาภาระค่าครองชีพของภาครัฐโดยเฉพาะการลดค่าพลังงานในระยะข้างหน้า รวมถึงคงส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อของไทยมีโอกาสที่อาจปรับเพิ่มสูงขึ้นได้

ทั้งนี้ จากการส่งสัญญาณของกนง. ในช่วงก่อนหน้านี้ คาดว่ากนง. จะคงดอกเบี้ยนโยบายในระดับสูงต่อเนื่องเพื่อรักษาขีดความสามารถของนโยบายการเงินในการรองรับความไม่แน่นอนในระยะข้างหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีแนวโน้มจะคงดอกเบี้ยสูงยาวนานขึ้นท่ามกลางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังแข็งแกร่งกว่าคาด

ด้านสำนักวิจัยเศรษฐกิจเคเคพี กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร  คาดว่า กนง.จะคงดอกเบี้ยที่ 2.5% ไปตลอดทั้งปี 67 ทำให้สถานการณ์ปัจจุบันมีความเสี่ยงที่นโยบายการเงินไทยจะอยู่ในภาวะที่เริ่มตึงตัวมากเกินไป ซึ่งปัจจุบันดอกเบี้ยที่แท้จริงของไทยสูงขึ้นที่ 2.5% ซึ่งมากกว่าสหรัฐ ฯ ที่ 2%  ในกรณีที่นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ไม่เกิดขึ้นได้จริง โอกาสที่กนง.จะลดดอกเบี้ยนโยบายจะมีสูงขึ้น

อย่างไรก็ตามจากทิศทางเศรษฐกิจที่ค่อนข้างอ่อนแอจะทำให้เงินเฟ้อยังมีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำที่ 1.7% โดยในช่วงที่ผ่านมาเงินเฟ้อไทยลดลงอย่างรวดเร็วและเริ่มเติบโตติดลบในขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเริ่มคงที่ ซึ่งเงินเฟ้อในไทยถือว่าปรับตัวลดลงเร็วที่สุดประเทศหนึ่งในโลกต่างจากหลายประเทศที่เงินเฟ้อค้างอยู่ในระดับสูงยาวนาน ในขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจส่งสัญญานทิศทางไม่ชัดเจน ทำให้การประเมินเศรษฐกิจเพื่อดำเนินนโยบายทำได้ยากขึ้น