ล็อกดาวน์อีก! แอฟริกาใต้สั่งเพิ่มระดับปิดล็อกดาวน์ทั้งประเทศนานครึ่งเดือน ยอดติดพันธุ์เดลต้าพุ่งไม่หยุด

ประธานาธิบดีประเทศแอฟริกาใต้ นายไซริล รามาโฟซา แถลงผ่านโทรทัศน์ทั่วประเทศ ด้วยการประกาศยกระดับมาตรการปิดล็อกดาวน์ทั่วประเทศขึ้นอีก 1 ระดับ เข้าสู่ระดับที่ 4 เพื่อเป้าหมายในการควบคุมอัตราการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ยังคงพุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเพิ่มมาตรการรักษาระยะห่างอย่างเข้มข้น โดยห้ามมีการรวมตัวของประชาชนในที่สาธารณะอย่างเด็ดขาด ห้ามประชาชนออกนอกบ้านที่พักอาศัย หรือเคอร์ฟิว ตั้งแต่เวลา 21.00 น. ถึงเวลา 04.00 น. และห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดทั้งสิ้น สั่งปิดโรงเรียนทุกแห่ง ร้านอาหารให้เปิดบริการเฉพาะสั่งกลับบ้านเท่านั้น อย่างไรก็ตาม สวนสาธารณะ และชายหาด ยังคงเปิดตามปกติโดยมีการจำกัดเวลาการใช้บริการ มาตรการทั้งหมดมีผลนาน 14 วัน

.
สาเหตุที่สถานการณ์การแพร่ระบาดรอบที่ 3 ในประเทศแอฟริกาใต้พุ่งสูงมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า หรืออินเดีย ที่พบเป็นจำนวนมากขึ้น การฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 เป็นไปอย่างล่าช้า และมีจำนวนผู้ได้รับการฉีดน้อย ข้อมูลถึงวันนี้ พบมีการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 โดสไปเพียง 2.7 ล้านคนจากประชากรทั้งหมด 60 ล้านคน หรือคิดเป็น 4.5% ขณะที่บุคลากรทางการแพทย์รับการฉีดวัคซีนราว 950,000 คนจากทั้งหมด 1.25 ล้านคน หรือราว 76% ประธานาธิบดีประเทศแอฟริกาใต้ ตั้งเป้าหมายว่า จะต้องเร่งฉีดเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้ได้ราว 67% ของประชาชนทั้งประเทศภายในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2565

.
พื้นที่ที่มีการติดเชื้อมากที่สุดถึง 60% ของจำนวนติดเชื้อทั้งประเทศ คือเคาเต็ง ซึ่งมีเมืองท่องเที่ยวใหญ่ สวยงาม และชื่อดังระดับโลก คือโจฮันเนสเบิร์ก รวมถึงเมืองหลวง คือกรุงพริทอเรีย ด้วย
เมื่อเร็วๆนี้ แอฟริกาใต้ได้รับการส่งมอบวัคซีนไฟเซอร์ 1.4 ล้านโดส ผ่านโครงการโคแวกซ์ขององค์การอนามัยโลก และได้รับอีก 1.2 ล้านโดสจากจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน

.
กระทรวงสาธารณสุข ประเทศแอฟริกาใต้ รายงานว่า ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาถึงวันนี้ 28 มิถุนายน 2564 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 15,036 ราย ส่งผลยอดติดสะสมเป็น 1,928,897 ราย อยู่อันดับที่ 19 ของโลก และเป็นอันดับ 1 ของทวีปแอฟริกา ขณะที่พบผู้เสียชีวิตรายใหม่ 122 ราย ทำให้ยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 59,900 เป็นอันดับ 1 ในทวีปแอฟริกา