ล็อกเมืองหลวง! รัฐบาลออสเตรเลียสั่งปิดล็อกดาวน์เมืองหลวง พบติดเชื้อเดลต้าโผล่ 1 ราย
ประชาชนชาวออสซี่จำนวนมากเดินทางไปซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคตามซุปเปอร์มาร์เก็ต และห้างสรรพสินค้าในกรุงแคนเบอร์รา ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศออสเตรเลีย ทำให้เกิดการจราจรติดขัด สาเหตุจากเหลือเวลา 24 ชั่วโมงที่จะปิดล็อกดาวน์กรุงแคนเบอร์ราครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปีผ่านมา
รัฐบาลประเทศออสเตรเลีย แถลงว่า มีคำสั่งประกาศมาตรการปิดล็อกดาวน์กรุงแคนเบอร์รา ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศออสเตรเลีย และเมืองบริเวณรอบนอกกรุงแคนเบอร์รา โดยมีผลวันพฤหัสบดีที่ 13 เวลา 17.00 น. ถึงวันที่ 19 สิงหาคม รวมเวลา 7 วัน สาเหตุจากกระทรวงสาธารณสุข ออสเตรเลีย ตรวจพบผู้ติดโรคระบาดโควิด-19 จำนวน 1 รายจากบริเวณนอกโรงแรมที่จัดให้เป็นสถานที่กักตัว ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่พบผู้ติดเชื้อในช่วงมากกว่า 1 ปีผ่านมา สำหรับสาเหตุการติดเชื้อของผู้ป่วยรายนี้ ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด
กรุงแคนเบอร์ราถูกปิดล็อกดาวน์ในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกในรอบมากกว่าปีผ่านมา หรือตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคโควิด-19 รอบแรกในออสเตรเลีย กรุงแคนเบอร์รามีประชากรราวกว่า 500,000 คน และอยู่ห่างนครซิดนีย์ซึ่งปิดล็อกดาวน์มาเป็นเวลานานเกือบ 7 สัปดาห์แล้ว เช่นเดียวกันกับนครเมลเบิร์นที่ถูกใช้มาตรการรักษาระยะห่างอย่างเข้มข้น
ขณะที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการระบาดของโรคโควิด-19 ในปัจจุบัน พบว่าในรอบ 24 ชั่วโมงมีผู้ติดเชื้อพุ่งสูงถึง 345 ราย หรือ 92% ของจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้งหมดของประเทศ สถานการณ์การระบาดที่รุนแรงและต่อเนื่องในรัฐนิวเซาท์เวลส์ยังไม่มีแรงโน้มที่ชัดเจนว่าจะผ่อนคลายแต่อย่างใดนับตั้งแต่เริ่มพบการระบาดตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายนด้วยสายพันธุ์เดลต้า หรืออินเดีย ขณะที่ มีการยืนยันว่า พบผู้ป่วยโรคระบาดโควิด-19 เสียชีวิตรายวัน 2 รายที่เมืองซิดนีย์ โดยทั้งคู่เป็นผู้สูงอายุในช่วง 90 ปี และได้รับการฉีดวัคซีนมาแล้ว 1 เข็ม
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข ออสเตรเลีย รายงานสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงผ่านมาถึงวันนี้ 12 สิงหาคม พบว่า มีจำนวนผผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 376 ราย ส่งผลจำนวนติดเชื้อสะสมเป็น 37,754 ราย อยู่อันดับ 125 ของโลก และพบผู้เสียชีวิต 2 ราย รวมเสียชีวิตสะสมเป็น 947 ราย
