วอยเยเจอร์ แพลตฟอร์มนายหน้าซื้อขายเงินคริปโทฯ ชื่อดัง ประกาศล้มละลาย

465
0
Share:
วอยเยเจอร์ แพลตฟอร์มนายหน้าซื้อขายเงิน คริปโทฯ ชื่อดัง ประกาศ ล้มละลาย

วอยเยเจอร์ ดิจิตอล ซึ่งเป็นธุรกิจนายหน้าซื้อขายวงการตลาดเงินคริปโทเคอร์เรนซีชื่อดังระดับโลกจากประเทศแคนาดา ประกาศธุรกิจล้มละลาย และร้องขอต่อศาลขอพิทักษ์ทรัพย์สินตามมาตรา 11 ในสหรัฐอเมริกา จากการเปิดเผยทรัพย์สิน และหนี้สิน พบว่า วอยเยเจอร์มีเจ้าหนี้รวมกันกว่า 100,000 ราย กลุ่มธุรกิจบริษัทวอยเยเจอร์ ประกอบด้วย 3 บริษัทย่อย ได้แก่ วอยเยเจอร์ ดิจิตอล โฮลดิ้งส์ บริษัทวอยเยเจอร์ ดิจิตอล แอลแอลซี และบริษัทวอยเยเจอร์ ดิจิตอล จำกัด ทั้งหมดเข้าสู่ภาวะล้มละลายอย่างสมบูรณ์แบบ

การประกาศล้มละลายของธุรกิจนายหน้าซื้อขายวงการตลาดเงินคริปโทเคอร์เรนซีในครั้งนี้ เป็นรายที่ 2 ต่อจากเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 ทรี แอร์โรว์ แคปปิตอล หรือ 3AC ซึ่งเป็นกองทุนประกันความเสี่ยงเงินคริปโทเคอร์เรนซีชื่อดังระดับโลกแห่งหนึ่งจากประเทศสิงคโปร์ ประกาศล้มละลาย และร้องขอต่อศาลล้มละลายในสหรัฐอเมริกาภายใต้กฎหมายฉบับที่ 15 เพื่อขอพิทักษ์ทรัพย์สินทั้งหมดของกองทุนดังกล่าว ส่งผลให้เจ้าหนี้ต่างชาติสามารถปกป้องทรัพย์สินในตลาดสหรัฐอเมริกา

สถานการณ์ทางการเงินที่ถึงขั้นวิกฤตของวอยเยเจอร์ ดิจิตอล ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงเมื่อวันที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมา วอยเยเจอร์ ดิจิตอล ซึ่งเป็นธุรกิจนายหน้าซื้อขายวงการตลาดเงินคริปโทเคอร์เรนซี ได้ออกประกาศระบุว่า ทรี แอร์โรว์ แคปปิตอล หรือ 3AC ซึ่งเป็นกองทุนประกันความเสี่ยงเงินคริปโทเคอร์เรนซี ไม่สามารถจ่ายคืนหนี้เงินกู้มูลค่า 350 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 12,600 ล้านบาท ในรูปแบบเหรียญ USDC หรือสกุลเงินสเตเบิลที่ตรึงค่ากับเงินดอลลาร์สหรัฐ และไม่สามารถจ่ายคืนหนี้เงินกู้สกุลบิทคอยน์จำนวน 15,250 เหรียญบิทคอยน์ คิดเป็นมูลค่า 323 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 11,628 ล้านบาท โดยคิดจากค่าเงินบิทคอยน์ในราคาตลาดปัจจุบัน

ตลาดเงินบิทคอยน์ใน 6 เดือนแรกของปีนี้ ทำสถิติตกต่ำมากที่สุดในรอบ 11 ปี ด้วยมูลค่าเงินบิทคอยน์ดำดิ่งรุนแรงมากถึง -58% ทำให้มูลค่าตลาดเงินบิทคอยน์เสียหายไปถึง 1.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 43.2 ล้านล้านบาทในช่วงครึ่งปีแรก

สาเหตุหลักสำคัญที่ส่งผลต่อตลาดเงินบิทคอยน์ดำดิ่งรุนแรง ได้แก่ ปัจจัยด้านเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยถึง 3 ครั้งติดต่อกัน และครั้งที่ 3 ปรับขึ้นมากถึง 0.75% นับว่าแรงที่สุดในรอบ 28 ปี ราคาหุ้นในกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีถูกเทขายอย่างหนักและต่อเนื่อง ส่งผลดัชนีหุ้นนาสแดคในไตรมาสที่ 2 ดำดิ่งมากถึง -22% สู่ภาวะหมีสมบูรณ์แบบ และเลวร้ายที่สุดในรอบ 14 ปีผ่านมา

ปัจจัยต่อมา คือ การล่มสลายของเหรียญดิจิทัลประเภทสเตเบิล คอยน์ ชื่อว่า เทอร์รายูเอสดี และเหรียญลูนา ปัจจัยที่สาม คือ แพลทฟอร์มบริการเงินกู้เพื่อลงทุนในตลาดเงินคริปโทเคอร์เรนซีชื่อดังมีชื่อว่า เซลเซียส เกิดภาวะยุติให้บริการถอนเงินของนักลงทุน เซลเซียสเสนอให้ผลตอบแทนสูงถึง 18% สำหรับการฝากเงินคริปโทเคอร์เรนซี จากนั้นเซลเซียสเสนอปล่อยเงินกู้จากเงินดังกล่าวให้กับนักลงทุนในตลาดเงินคริปโทเคอร์เรนซี ที่พร้อมจะจ่ายดอกเบี้ยสูงแลกเปลี่ยนกับการกู้เงินไปลงทุน แต่ราคาของเงินคริปโทเคอร์เรนซีตกต่ำอย่างรุนแรง ทำให้นักลงทุนกู้ยืมเงินเกิดภาวะขาดทุนมากมาย

ปัจจจัยต่อมา คือ กองทุนประกันความเสี่ยงเงินคริปโทเคอร์เรนซีชื่อดัง ทรี แอร์โรว์ แคปปิตอล หรือ 3AC เกิดภาวะไม่สามารถชำระหนี้มูลค่า 24,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับลูกค้าได้ จึงถูกศาลสั่งให้เข้าสู่ขั้นตอนการขายทรัพย์สินของกองทุน เพื่อนำเงินมาชดใช้หนี้ให้กับลูกค้า