วอลท์ ดิสนีย์ ปลดพนักงาน 7,000 คนทั่วโลก หวังประหยัดเงินเกือบ 190,000 ล้านบาท

353
0
Share:
วอลท์ ดิสนีย์ ปลดพนักงาน 7,000 คนทั่วโลก หวังประหยัดเงินเกือบ 190,000 ล้านบาท

วอลท์ ดิสนีย์ คอร์ปอเรชั่น ยักษ์ใหญ่ธุรกิจบันเทิงและสวนสนุกชื่อดังระดับโลก ประกาศปลดพนักงานครั้งใหญ่มากถึง 7,000 คน หรือราว 3.6% ของพนักงานทั้งหมดในปัจจุบัน

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ นายบ๊อบ ไอเกอร์ กล่าวว่า การปลดพนักงานในครั้งนี้จะสามารถประหยัดค่าใช้จ่าย 5,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 187,000 ล้านบาท และยังสามารถปรับโครงสร้างธุรกิจให้สามารถมีกำไรมากขึ้น ในด้านการปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจใหม่จะทำให้เกิด 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มธุรกิจบันเทิงและภาพยนตร์ กลุ่มสตรีมมิ่งและโทรทัศน์โดยเฉพาะสถานีโทรทัศน์กีฬาอีเอสพีเอ็น และกลุ่มธุรกิจสวนสนุกดิสนีย์ซึ่งครอบคลุมถึงสินค้าและบริการทุกรูปแบบ

ซีอีโอวอลท์ ดิสนีย์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า การปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจใหม่จะทำให้เกิดประสิทธิภาพด้านการตัดลดค่าใช้จ่าย และวิธีการบริหารในภาพรวมที่มีต่อการปฏิบัติงานขององค์กร บริษัทให้ความมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพโดยเฉพาะท่ามกลางสถานการณ์ที่ท้าทาย

ด้านผลประกอบการของวอลท์ ดิสนีย์ คอร์ปอเรชั่น พบว่า ธุรกิจสตรีมมิ่งภาพยนตร์ที่มีชื่อว่า ดิสนีย์พลัส มีจำนวนสมาชิกรายไตรมาสที่ตกต่ำลงเป็นครั้งแรก ในขณะที่มีการดำเนินงานในธุรกิจดังกล่าวขาดทุนสูงถึง 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 34,000 ล้านบาท

การปลดพนักงานจำนวนมากถึง 7,000 คนในครั้งนี้ นับเป็นการปลดพนักงานในรอบ 2 ปี 3 เดือน โดยเมื่อพฤศจิกายน 2022 วอลท์ ดิสนีย์ คอร์ปอเรชั่น ปลดพนักงานครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของบริษัทถึง 32,000 คน โดยเฉพาะกลุ่มพนักงานในธุรกิจสวนสนุกดิสนีย์ สาเหตุจากวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 ในช่วง 2 ปีผ่านมา

ซีอีโอ วอลท์ ดิสนีย์ คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยรายละเอียดเงินที่ประหยัดได้จากการปลดพนักงานและอื่นๆรวมกันว่า ประกอบด้วย การตัดลดค่าใช้จ่ายฝ่ายธุรการและฝ่ายขายรวมกันเป็นจำนวนถึง 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 85,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังตัดลดธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับกีฬาในเครือของวอลท์ ดิสนีย์ คอร์ปอเรชั่น ซึ่งประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึง 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 102,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ การประกาศปรับโครงสร้างในครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 5 ปีผ่านมา โดยครั้งแรกเกิดขึ้นในปี 2018 เพื่อหวังเร่งการเติบโตธุรกิจสตรีมมิ่งภาพยนตร์ดิสนีย์ พลัส ต่อมาในปี 2020 ด้วยเป้าหมายเดียวกันกับในปี 2018 และครั้งที่ 3 เกิดขึ้นในปีนี้