วันตรึงดอกเบี้ยแต่ต่างชาติเทขายหุ้นไทยหนักกว่า 2,000 ล้านบาท ตลท.ยังมองไม่ออก

วันนี้ 7 กุมภาพันธ์ 2567 นักลงทุนต่างประเทศทำการขายสุทธิหุ้นไทยสูงถึง 2,006 ล้านบาท ท่ามกลางดัชนีหุ้นไทย SET Index สามารถปิดที่ระดับ 1,400.02 จุด เพิ่มขึ้น +3.06 จุด หรือ +0.22% ด้วยมูลค่าซื้อขายสุทธิ 45,570 ล้านบาท

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่าผลการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.50% ต่อปีนั้น เป็นเหตุผลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แต่ในมุมมองส่วนตัวมองว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.50% รวมถึงดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ของไทยขณะนี้ยังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับในช่วง 10-20 ปีที่ผ่านมา ดังนั้น ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยไม่ได้อยู่ในระดับที่สูง แต่จะถึงเวลาการปรับดอกเบี้ยลงหรือไม่ เป็นเรื่องของธปท.

สำหรับแนวโน้มการเคลื่อนย้ายเงินทุนต่างชาติ หรือฟันด์โฟลว์ที่เข้ามาซื้อสุทธิหุ้นไทยตลอดเดือนนี้ ว่า ต้องรอดูภาพรวมตัวเลขภายในเดือนนี้ก่อน แม้ว่าช่วงต้นเดือน ก.พ.ที่ผ่านมาเริ่มเห็นกลับเข้ามาทุกวัน ซึ่งยังไม่สามารถบอกได้ว่าเงินที่ไหลเข้ามาเป็นฟันด์โฟลว์ระยะสั้นหรือระยะยาว

หากเป็นเม็ดเงินระยะสั้นก็จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับเรื่องทิศทางดอกเบี้ย และการเก็งกำไรอัตราแลกเปลี่ยน แต่หากเป็นเงินระยะยาวอาจมีปัจจัยเชิงบวกจากตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาไม่เห็นตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนโตระดับ 40% ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา หากเป็นไปได้ต่อเนื่องก็จะเป็นปัจจัยบวกต่อฟันด์โฟลว์อย่างมาก ปัจจัยอื่นๆ ได้แก่เศรษฐกิจโดยรวมโตหรือยัง และกลุ่มอะไรบ้างที่เป็นบวก รวมถึงมีปัจจัยอะไรบ้างที่เสริมให้เศรษฐกิจเริ่มโตทั้งหมด แทนที่จะโตแค่บางส่วน

กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า เรื่องต่างๆ ดูคลี่คลายมากขึ้นเรื่อยๆ จึงมองว่าแนวโน้มเศรษฐกิจจะดีขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นถ้าอัตราดอกเบี้ยค่อยๆ ปรับตัวลดลงในตลาดโลก มีความเชื่อว่าสภาพคล่องจะกลับมาดีขึ้นและฟันด์โฟลว์จะไหลกลับเข้ามาในประเทศไทยได้มากขึ้น รวมถึงเข้ามาลงทุนในภาคธุรกิจที่เริ่มเห็นการเจริญเติบโต เช่น อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวและการบริโภคในประเทศ จึงเชื่อว่าเศรษฐกิจจะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้น