วันประวัติศาสตร์! 2 ชาติในอาเซียน ไทยและกัมพูชาได้นายกฯ คนใหม่พร้อมกันในวันเดียวกัน

วันที่ 22 สิงหาคม 2023 เป็นวันสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองของประเทศไทย และประเทศกัมพูชา รวมถึงอาจเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองอาเซียนที่มีการลงมติจากรัฐสภาของทั้ง 2 ประเทศในการเห็นชอบนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของทั้ง 2 ประเทศเกิดขึ้นในวันเดียวกัน

วันนี้ที่รัฐสภา ประเทศไทย เมื่อเวลา 16.55 น. โดยประมาณ การขานชื่อสมาชิกรัฐสภาในการลงคะแนนเห็นชอบ หรือไม่เห็นชอบ แคนดิเดทนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย ปรากฎว่า นายเศรษฐา ทวีสิน ได้เสียงเห็นชอบจำนวน 375 เสียง หรือได้คะแนนเสียงเห็นชอบเกินกึ่งหนึ่งของเสียงสมาชิกรัฐสภา 747 คน ดังนั้น จึงถือว่าได้ นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 อย่างไม่เป็นทางการ หรือว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย

ทั้งนี้ เมื่อสิ้นสุดการลงคะแนน พบว่า ได้คะแนนเสียงเห็นชอบ 482 เสียง ประกอบด้วย เสียงส.ส.จำนวน 330 เสียง และเสียงส.ว.จำนวน 152 เสียง สำหรับไม่เห็นชอบจำนวน 165 เสียง ประกอบด้วย เสียงส.ส.จำนวน 152 เสียง และเสียงส.ว.จำนวน 13 เสียง และสุดท้าย งดอออกเสียง 81 เสียง เสียงส.ส.จำนวน 13 เสียง และเสียงส.ว.จำนวน 68 เสียง

ขณะที่ในช่วงเช้าวันนี้ ที่รัฐสภา ประเทศกัมพูชา ได้มีการประชุมเพื่อลงมติรับรองนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของประเทศกัมพูชาอย่างเป็นทางการ ได้แก่ พลเอกฮุน มาเน็ต หลังจากได้รับการลงมติจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 123 เสียงที่เข้าร่วมประชุมในรัฐสภากัมพูชา

สำหรับนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของกัมพูชา พลเอกฮุน มาเน็ต มีอายุ 45 ปี เป็นบุตรชายคนโตของสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดในประเทศกัมพูชา และดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่ยาวนานที่สุดในโลกด้วย

ทั้งนี้ ในวันเดียวกันนี้ เมื่อเวลา 9.00 น. โดยประมาณ อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ ชินวัตร วัย 74 ปี เดินทางกลับถึงท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย ซึ่งเป็นการเดินทางกลับประเทศไทยในช่วง 15 ปีผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายยุติธรรม เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำตัวอดีตนายกรัฐมนตรีทักษินไปยังศาลฎีกาทันที โดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษา 3 คดี สั่งจำคุก 10 ปี โดยจำคุกจริง 8 ปี จากนั้นได้นำตัวอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ไปยังเรือนจำพิเศษ คลองเปรม ทันที