วิจัยกรุงศรีชี้เงินเฟ้อไทยยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อ อาจสูงกว่าที่เคยคาดไว้ที่ 2.7%

345
0
Share:
เงินเฟ้อ

วิจัยกรุงศรี ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อเดือนก.พ. 65 ที่พุ่งสู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 13 ปี และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากวิกฤตราคาพลังงานที่ได้รับผลกระทบจากสงครามยูเครน โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนก.พ. อยู่ที่ 5.28% YoY เร่งขึ้นจาก 3.23% ในเดือนม.ค. สาเหตุจากการปรับขึ้นของราคาสินค้าในกลุ่มพลังงานเป็นสำคัญ อาทิ ค่ากระแสไฟฟ้า และน้ำมันเชื้อเพลิงขายปลีกในประเทศ ตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อปรับตัวเร่งขึ้นมาก โดยแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 51 และยืนอยู่เหนือกรอบเงินเฟ้อเป้าหมายของทางการต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ขณะที่ในเดือนถัดไปยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ตามทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ทะยานสูงขึ้นกว่า 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่มีความเสี่ยงจะยืดเยื้อ โดยเฉพาะในหมวดพลังงานจึงเพิ่มขึ้นกว่าคาด กระทบต้นทุนการผลิตปรับเพิ่ม อัตราเงินเฟ้อในปีนี้ จึงมีโอกาสสูงกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 2.7%

ด้านแรงกดดันด้านเงินเฟ้อมีแนวโน้มเร่งขึ้นกว่าคาด โดยมีสาเหตุสำคัญจากการพุ่งขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ โดยเฉพาะราคาพลังงานที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสถานการณ์ความรุนแรงในยูเครน ซึ่งปัญหาดังกล่าวยังอาจสร้างความเสี่ยงต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย นอกจากนี้ การระบาดของไวรัสโอไมครอนในประเทศ ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อปรับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจบั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและการท่องเที่ยวในประเทศ

เพื่อช่วยประคับประคองการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ซึ่งนับว่ามีความอ่อนแอ และเปราะบางอยู่มาก วิจัยกรุงศรี จึงยังคงคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบาย จะถูกตรึงไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.50% ตลอดทั้งปี 65 ซึ่งแม้มีปัจจัยบวกอยู่บ้าง แต่ความเสี่ยงจากวิกฤตยูเครนที่ทวีความรุนแรง อาจกดดันการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว