“วิษณุ เครืองาม” ย้ำหากผ่อนคลายแล้วไม่ปฏิบัติตามก็ต้องถูกสั่งปิดกิจการ

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณีที่มีประชาชนไปรุมแย่งซื้อ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หลังศบค. ผ่อนคลายมาตรการว่า ต้องใช้วิธีเตือนกันก่อนเพราะต่างคนต่างยังไม่คุ้น และก็ต้องรีบจัดระบบเสียใหม่ และได้ย้ำแล้วว่าทุกคนต้องระมัดระวังตัวเอง ทั้งห้างสรรพสินค้า และผู้บริโภคคือทั้งคนซื้อ คนขาย

.

ขณะนี้ศบค.กำลังดูกันอยู่ เพราะได้บอกแล้วว่าถ้าคุมไม่อยู่ก็ต้องห้าม หรือปิดเฉพาะแห่ง ปิดห้างนั้น ร้านนั้น แต่ร้านอื่นไม่เกี่ยว แต่ถ้าลุกลามมากก็อาจปิดเป็นกิจการไปเลย ซึ่งถ้าปิดเป็นกิจการ 17 ห้างก็โดนหมด 6 กิจการก็โดนหมด เช่นในต่างจังหวัด ร้านอาหารที่เปิดก็เปิดหมด ถ้าร้านไหนไม่ระมัดระวังไม่มีการป้องกันก็ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดปิดเฉพาะร้านนั้นได้ร้านเดียว

.

ส่วน 5 จังหวัดที่ผู้ว่าราชการจังหวัดไม่ผ่อนคลายให้ซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ถือว่าไม่เป็นไร เพราะเขาประเมินความเสี่ยงของเขาเอง ต้องเข้าใจว่าคำสั่งมี 2 ระดับ คือคำสั่งกลางของรัฐบาล ซึ่งระบุเพียงเรื่องการให้ดื่มในร้าน

.

อีกระดับหนึ่งคือระดับของผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งสามารถมีคำสั่งเองตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ ไม่ใช่สั่งตามพระราชกำหนด อันนั้นก็ดูเป็นจังหวัด ๆ ไป แต่ถ้าจังหวัดไหนใช้อำนาจ พ.ร.บ.โรคติดต่อสั่งปิดแล้ววันหลังจะเปลี่ยนเป็นเปิดนั้นไม่ได้ จะต้องมาให้ส่วนกลางเป็นคนอนุญาต . ขณะนี้ทางส่วนกลางกำลังจับตาดูทุกวันถึงพฤติกรรมต่างๆ รวมถึงสถิติการติดเชื้อ แต่ทางการแพทย์บอกแล้วว่า 14วันอาการจะปรากฎ

.

อย่างไรก็ตามหากร้านใดทำผิดข้อบังคับ วันเดียว หรือ 3 วัน ก็ปิดได้เลยอย่างเช่นวันนี้ก็มีถูกปิดแล้วใน กทม. ซึ่งมีรายงานมาว่าเป็นการปิดเฉพาะแห่ง แต่ตนไม่ทราบว่าที่ไหน ในรายงานบอกว่าเป็นร้านอาหาร ที่เตือนแล้วไม่ฟัง