วีซ่าเปิดโพลนักท่องเที่ยวมาเลเซียส่อกลับเที่ยวไทยซ้ำมากกว่านักท่องเที่ยวจีนในปี 2024

293
0
Share:
วีซ่าเปิดโพล นักท่องเที่ยว มาเลเซียส่อกลับ เที่ยวไทย ซ้ำมากกว่านักท่องเที่ยวจีนในปี 2024

นางสาวปุณณมาศ วิจิตรกุลวงศา ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย เปิดเผยผลสำรวจชื่อว่า ความตั้งใจการท่องเที่ยวระดับโลกวีซ่า ปี 2566 หรือ Visa Global Travel Intentions Study 2023 โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีแนวโน้มจะกลับมาท่องเที่ยวประเทศไทย พบว่า ในช่วง 12 เดือนจากนี้ไป ได้แก่ อันดับ 1 มาเลเซีย 42% อันดับ 2 สิงคโปร์ 41% อันดับ 3 ฟิลิปปินส์ 28% อันดับ 4 จีน 25% และอันดับ 5 สุดท้าย คือ เวียดนาม 22%

นอกจากนี้ มากกว่า 1 ใน 4 หรือกว่า 28% ของผลสำรวจ พบว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เคยมาเที่ยวประเทศไทยในปี 2023 นี้ ยอมรับว่า มีความตั้งใจจะกลับมาเที่ยวเมืองไทยอีกครั้งภายใน 12 เดือนข้างหน้า

ปัจจัยบวกที่มีผลในการสร้างแรงจูงใจให้เดินทางท่องเที่ยวในปี 2024 ได้แก่ การผ่อนคลาย การช้อปปิ้ง การเปิดประสบการณ์ การผจญภัย และการพบปะครอบครัวและเพื่อนฝูง ขณะที่จุดหมายปลายทางเมืองท่องเที่ยว 3 อันดับแรกที่นักท่องเที่ยวตั้งใจจะไปเที่ยวมากที่สุด คือ กรุงเทพ ภูเก็ต และพัทยา ตามลำดับ ในแง่เมืองจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวแต่ละชาติ พบว่า หัวหินเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของจีน เชียงใหม่ เป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของมาเลเซีย และกระบี่เป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของสิงคโปร์

ผู้จัดการวีซ่า (VISA) ประจำประเทศไทย เปิดเผยต่อไปว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนใหญ่ราว 51% เป็นกลุ่มคนเจนมิลเลนเนียล หรือเจนวาย(Y) ตามด้วย 27% เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีกำลังใช้จ่ายสูง ถัดมามี 18% เป็นครอบครัวที่เดินทางกับเด็กเล็ก ราว 16% เป็นคนโสดวัยหนุ่มสาว และ 15% เป็นนักท่องเที่ยวในกลุ่มคนเจนซี(Z) รวมถึง 14% เป็นครอบครัวที่เดินทางกับเด็กโต และมีราว 11% เป็นกลุ่มวัยเกษียณ

สำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มคนวัยเกษียณจะใช้เวลาในการท่องเที่ยว โดยพักอาศัยในประเทศไทยนานที่สุดถึง 12 คืน เปรียบเทียบกับจำนวนคืนเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวทั่วไปจะอยู่ที่ 8 คืนในประเทศไทย กรณีข้อมูลแยกตามฐานเชื้อชาติ พบว่า ชาวสิงคโปร์พักอาศัยในไทยนานที่สุดถึง 7 คืน อันดับรองลงมาเป็นชาวจีน และชาวเวียดนาม ซึ่งใช้เวลาพักอาศัยนาน 5 คืน และชาวมาเลเซียและชาวฟิลิปปินส์พักอาศัยที่ 4 คืน

ด้านพฤติกรรมการใช้จ่ายเงินของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทย พบว่า นักท่องเที่ยวราว 48% ใช้จ่ายผ่านบัตรแทนการใช้เงินสด และกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีกำลังใช้จ่ายสูง รวมถึงครอบครัวที่เดินทางพร้อมเด็ก กลายเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักที่ใช้บัตรแทนเงินสด ส่วนรายการใช้จ่ายต่าง ๆ ประกอบด้วย 39% ใช้จ่ายช้อปปิ้ง มี 33% ใช้จ่ายรับประทานอาหาร และมี 33% ใช้จ่ายไปกับกิจกรรมต่างๆ

นอกจากนี้ ช่วงวางแผนก่อนการเดินทางนั้น นักท่องเที่ยวเลือกใช้จ่ายผ่านบัตรแทนเงินสดมากที่สุด โดยมีรายการสำคัญ เช่น 81% ใช้จ่ายค่าที่พัก และ 69% ใช้จ่ายค่าเดินทาง สำหรับการเลือกที่พักนั้น มีมากถึง 83% เลือกพักในโรงแรม ด้วย 5 ปัจจัยแรกที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกที่พัก ได้แก่ 76% ความปลอดภัย ต่อมา 53% ความสะอาด อันดับ 3 มี 54% ตำแหน่งที่ตั้ง ถัดมา 52% ความคุ้มค่า และ 41% สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องพัก

ประเด็นสำคัญเกี่ยวกับกำลังซื้อของนักท่องเที่ยวต่างชาติในไทย พบว่า นักท่องเที่ยวจีนมีการใช้จ่ายสูงที่สุดเป็นอันดับ 1 เฉลี่ยที่ 95,000 บาท อันดับ 2 ชาวสิงคโปร์ เฉลี่ยใช้จ่าย 58,000 บาท อันดับ 3 ฟิลิปปินส์ ใช้จ่ายเฉลี่ย 48,000 บาท อันดับ 4 เวียดนาม เฉลี่ยที่ 38,000 บาท และอันดับ 5 มาเลเซียเฉลี่ยใช้จ่าย 34,000 บาท

ทั้งนี้ ความน่าสนใจเกี่ยวกับการใช้จ่ายทั้งหมด จะขึ้นอยู่กับระยะเวลาของการเดินทางด้วย พบว่า นักท่องเที่ยวใช้เวลาเดินทางท่องเที่ยวในไทยมากกว่า 8 วันขึ้นไปนั้นมีโอกาสจะใช้จ่ายมากกว่า 135,000 บาท หากใช้เวลาอยู่ในไทยราวไม่เกิน 1 สัปดาห์ หรือระหว่าง 4-7 วัน จะใช้จ่ายอยู่ที่ 65,000 บาท ส่วนนักท่องเที่ยวที่เดินทางและพักอาศัยในไทยไม่เกิน 3 คืน จะใช้จ่ายที่ 40,000 บาท