ศก.เสียหาย! ตะลึงยึดทรัพย์คดีฉ้อโกง-พนัน-ยาเสพติด ใน 1 ปี ทำเศรษฐกิจเสียหายรวมกว่า 9 พันล้าน

174
0
Share:

นายวิทยา นีติธรรม ผู้อำนวยการกองกฎหมายและโฆษกประจำสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) แถลงผลการดำเนินงานของสำนักงาน ปปง.ประจำเดือนตุลาคม โดยผลการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 10/2566 เห็นชอบให้ดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำผิด โดยยึดและอายัดทรัพย์สิน จำนวน 9 คดี ทรัพย์สิน 75 รายการ พร้อมดอกผลมูลค่าประมาณ 33 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นทรัพย์สินเกี่ยวกับความผิดมูลฐาน ยาเสพติด ฉ้อโกงประชาชน ลักลอบหนีศุลกากรและการจัดให้มีการเล่นพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ยังมีการส่งเรื่องให้อัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน 22 คดี ทรัพย์สิน 1,812 รายการ พร้อมดอกผล 531 ล้านบาท

ส่วนผลดำเนินการภาพรวมในรอบปีที่ผ่านมา ปปง. ดำเนินการยึดอายัดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 9,400 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นความผิดมูลฐาน ฉัอโกงประชาชน พนันออนไลน์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และยาเสพติด โดยมีรายคดีสำคัญ เช่น คดีโกงหุ้นมอร์ รีเทิร์น จำกัด ยึด/อายัด 4,500 ล้านบาท คดีสร้างโรงแรมบุกรุกพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตาเกาะหลีเป๊ะ ยึด/อายัด ทรัพย์ 130 ล้านบาท คดีสำคัญอื่นๆ อีกหลายคดี โดยสามารถนำทรัพย์สิน ที่ศาลสั่งตกเป็นของแผ่นดินส่งกระทรวงการคลังรวมมูลค่า 8,800 ล้านบาท

นายวิทยา นีติธรรม ผู้อำนวยการกองกฎหมาย ในฐานะโฆษกประจำสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. และทีมงาน เปิดเผยว่า ปัจจุบันพบว่ามีบัญชีม้าอยู่ในระบบธนาคารจำนวนมากถึง 200,000-500,000 บัญชี จากบัญชีธนาคารในประเทศทั้งหมดกว่า 121 ล้านบัญชี ปปง.จึงได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดหามาตรการควบคุมการเปิดบัญชีม้า

เบื้องต้น ปปง.ได้ร่วมกับตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือตำรวจไซเบอร์ คัดกรองรายชื่อที่คาดว่าจะมีความเกี่ยวข้องกับบัญชีม้า โดยรวบรวมจากผู้เสียหายที่ถูกฉ้อโกง หรือถูกหลอกลวงจากอาชญากรรมออนไลน์และเข้าไปแจ้งความกับตำรวจไซเบอร์ โดยขณะนี้รวบรวมได้แล้วกว่า 10,000 รายชื่อ รวมกว่า 70,000 บัญชี หรือคิดเป็นอัตราส่วน 1:7 และได้แจ้งรายชื่อทั้งหมดไปยังสถาบันการเงินเพื่อให้ระงับการทำธุรกรรมของบุคคลที่มีรายชื่อดังกล่าว ซึ่งจะไม่สามารถทำธุรกรรมผ่านช่องทางต่างๆ ได้ นอกจากแสดงตัวตนผ่านทางเคาน์เตอร์ธนาคารเท่านั้น และขณะนี้ ปปง.ยังคงดำเนินการรวบรวมรายชื่อกลุ่มผู้ที่เข้าข่ายบัญชีม้าอยู่ โดยพบรายชื่อผู้เข้าข่ายเพิ่มขึ้นสัปดาห์ละกว่า 1,000 รายชื่อ