ศบค.ชุดเล็ก เคาะผ่อนคลายมาตรการอนุญาตให้นั่งทานอาหารในร้านได้ 50% -ลดเวลาเคอร์ฟิว 1 ชั่วโมง เตรียมเสนอ ศบค. ชุดใหญ่วันพรุ่งนี้

ที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการ ศบค. (ศบค.ชุดเล็ก) มีมติเห็นชอบมาตรการผ่อนคลายล็อกดาวน์จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม โดยจะผ่อนปรนให้ร้านอาหารนั่งรับประทานอาหารในร้านได้ รวมทั้งลดระยะเวลาห้ามออกนอกเคหะสถาน  ในยามวิกาล 1 ชั่วโมง โดยในส่วนของการผ่อนปรนร้านอาหารให้นั่งรับประทานในร้านได้นั้น จะมี 2 ส่วน คือ

ส่วนที่ 1

1. ร้านอาหารที่มีการเปิดเครื่องปรับอากาศ อนุญาตนั่งรับประทานในร้านได้คิดเป็น 50% ของจำนวนที่นั่งในร้าน
2. ร้านอาหารที่ไม่มีการเปิดเครื่องปรับอากาศ หรือไม่เปิดแอร์ ให้นั่งได้ 75 % ของจำนวนที่นั่งในร้าน

ทั้งนี้ต้องอยู่ภายใต้มาตรการสาธารณสุขเข้มงวด อาทิ พนักงานสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ห้ามตะโกนสั่งอาหาร ห้ามรวมกลุ่ม ล้างมือด้วยเจลล์แอลกอฮอล์

ส่วนที่ 2

ลดเวลาการเคอร์ฟิวลงจากเดิม 1 ชั่วโมง เหลือเวลา 22.00 ถึง 04.00 น. จากเดิม 21.00-04.00 น. แต่ยังห้ามประชาชนในพื้นที่สีแดงเข้มออกนอกเคหสถานในช่วงเวลาเคอร์ฟิวตามประกาศใหม่

ทั้งนี้ยังได้มีประเด็นอื่นๆ ที่จะเสนอเข้าที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่ในวันพรุ่งนี้ ที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธานการประชุมเพื่อลงมติว่าจะเห็นชอบตามศบค.ชุดเล็กหรือไม่ แล้วจะเริ่มบังคับใช้มาตรการใหม่ได้เมื่อไร

ทางด้านกระทรวงสาธารณสุข ได้เตรียมเสนอที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ในวันที่ 27 ส.ค. เพื่อพิจารณาผ่อนคลายมาตรการ โดยเสนอแผนเปิดกิจการ 3 ระยะ     ในเดือนกันยายน หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดมีแนวโน้มเริ่มดีขึ้น พร้อมกำหนดข้อปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยสำหรับผู้ประกอบการร้านอาหารและผู้รับบริการทั้ง 3 ข้อ ดังนี้

1.จัดการสิ่งแวดล้อมไม่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ เช่น เว้นระยะห่าง ไม่แออัด อากาศถ่ายเทได้ดี

2.พนักงานต้องปลอดโรค ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ถ้าไม่ได้ฉีดหรือฉีดไม่ครบต้องตรวจเชื้อด้วยชุด ATK ทุก 3-7 วัน และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันในการให้บริการลูกค้า

3.ลูกค้าต้องปลอดโรค เช่น แสดงหลักฐานการฉีดวัคซีน