สรรพสามิต ขึ้นภาษีความหวานเฟส 3 ดีเดย์ 1 เมษายนนี้ ยันไม่กระทบราคาน้ำหวาน น้ำอัดลม

นายณัฐกร อุเทนสุด ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุม กรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนนี้ กรมสรรพสามิตจะเริ่มปรับขึ้นภาษีความหวาน ตามปริมาณน้ำตาลเข้าสู่ระยะที่ 3 หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาการคงภาษี 6 เดือน โดยมีเป้าหมายเพื่อต้องการดูแลสุขภาพของคนไทย ให้ห่างไกลจากโรคอ้วนเบาหวานและความดัน

สำหรับภาษีความหวานระยะที่ 3 ที่เริ่มเก็บตั้งแต่ 1 เมษายน 2566 ถึง 31 มีนาคม 2568 มีอัตราดังนี้
– ปริมาณน้ำตาล 6-8 กรัม คิดอัตราภาษี 0.30 บาทต่อลิตร
– ปริมาณน้ำตาล 8-10 กรัม คิดอัตราภาษี 1 บาทต่อลิตร
– ปริมาณน้ำตาล 10-14 กรัม คิดอัตราภาษี 3 บาทต่อลิตร
– ปริมาณน้ำตาล 14-18 กรัม คิดอัตราภาษี 5 บาทต่อลิตร
– ปริมาณน้ำตาลตั้งแต่ 18 กรัม คิดอัตราภาษี 5 บาทต่อลิตร

โดยภาษีความหวานจะมีการปรับขึ้นเป็นอัตราก้าวหน้าทุกๆ2 ปี ซึ่งถ้าผู้ประกอบการไม่ปรับเปลี่ยนสูตรการผลิต โดยลดส่วนผสมจากน้ำตาลลง จะทำให้ต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้นเช่นเครื่องดื่มที่มีสารความหวาน 10-14 กรัมต่อลิตร จะเสียภาษีเพิ่มจาก 1 บาทเป็น 3 บาทต่อลิตร

อย่างไรก็ตามการขึ้นภาษีความหวานตามปริมาณน้ำตาลรอบนี้ จะไม่กระทบให้ราคาเครื่องดื่มที่มีความหวานหรือน้ำอัดลมราคาเพิ่มขึ้น เนื่องจากขณะนี้ทางผู้ผลิตได้ทยอยปรับตัวหันไปใช้สารให้ความหวานอื่นๆ แทน

ส่วนภาษีความเค็ม ขณะนี้การศึกษาเสร็จแล้ว 90% แต่จะเริ่มใช้เมื่อไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของช่วงเวลา โดยจะมีระยะเวลาให้ปรับตัวอย่างน้อย 1 ปีซึ่งจะไม่มีผลทันทีแต่อย่างใด