ศึกเจ้าสัว! เจ้าสัวเจริญเร่งผุดร้านสะดวกซื้อ “โดนใจ” ครบ 30,000 สาขาทั่วไทย

320
0
Share:
ศึกเจ้าสัว! เจ้าสัวเจริญเร่งผุด ร้านสะดวกซื้อ “โดนใจ” ครบ 30,000 สาขาทั่วไทย

สื่อบลูมเบิร์ก รายงานว่า ธุรกิจขายปลีกโดยเฉพาะในกลุ่มร้านสะดวกซื้อ หรือ Convenient Store ในประเทศไทย กำลังร้อนแรงขึ้นต่อเนื่องถึงแม้ว่าในช่วงวิกฤตการณ์โรคระบาดโควิด-19 จะทำให้ธุรกิจร้านสะดวกซื้อได้รับผลกระทบ แต่จากนี้ไปการส่งสัญญาณเชิงรุกที่ชัดเจนของเจ้าสัวเจริญ ศิริวัฒนภักดี ที่ต้องการขยายธุรกิจขายปลีกร้านสะดวกซื้อมีชื่อร้านว่า “โดนใจ” ให้ครบ 30,000 สาขาภายใน 5 ปีจากนี้ไป

หนึ่งในมหาเศรษฐีอันดับต้นของประเทศไทย เจริญ ศิริวัฒนภักดี ที่มีความร่ำรวยสูงถึง 11,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 425,500 ล้านบาท กำลังมีเป้าหมายในการเพิ่มจำนวนร้านสะดวกซื้อชื่อว่า ร้านโดนใจ ให้เป็น 30,000 สาขาภายในปี 2027 หรือภายในปี 2570 โดยอาศัยเครือข่ายธุรกิจในกลุ่มบริษัทเบอร์ลี่ ยุคเกอร์ ประกอบด้วย การขนส่งและกระจายสินค้า การบริหารจัดการข้อมูลและการตลาด เพื่อแลกเปลี่ยนกับการบริหารสต็อกสินค้าของกลุ่มบริษัทค้าปลีกในเครือทั้งบริษัทไทยเบฟเวอเรจ และบริษัทบิ๊กซี รีเทล คอร์ปอเรชั่น

สมรภูมิขายปลีกในกลุ่มร้านสะดวกซื้อในไทยมีรายใหญ่ที่สุด ได้แก่ บริษัทซีพี อลล์ เป็นเจ้าของร้านเซเว่น-อีแลฟเว่น ของมหาเศรษฐีธนินท์ เจียรวนนท์ ที่มีความร่ำรวยมากถึง 28,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1.04 ล้านล้านบาท ซีบีอาร์อี (CBRE) กรุ๊ป อินคอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า ปัจจุบันร้านเซเว่น-อีแลฟเว่น ในประเทศไทยมีสาขาราว 14,000 แห่งทั่วประเทศ หรือเกือบ 3 ใน 4 หรือ 75% ของร้านสะดวกซื้อในประเทศ ตามด้วยโลตัส บิ๊กซีมินิ ท็อปส์ และลอว์สัน ตามลำดับ

กลุ่มเซ็นทรัลซึ่งเป็นของตระกูลจิราธิวัฒน์ โดยมีความร่ำรวยมากถึง 13,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 510,600 ล้านบาทจากธุรกิจที่หลากหลาย เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงแรมและรีสอร์ต ค้าปลีก รวมถึงค้าส่งนั้น เมื่อเดือนสิงหาคมผ่านมา ได้เข้าเปลี่ยนชื่อร้านสะดวกซื้อแฟมมิลี่มาร์ท เป็น ท็อปส์เดลี่ ทำให้มีจำนวนสาขาเพิ่มขึ้นเกือบ 300 แห่งเริ่มจากซุปเปอร์มาร์เก็ตมาถึงร้านสะดวกซื้อ เมื่อรวมทั้ง 2 ประเภท ส่งผลให้สร้างยอดขายในปีผ่านมาถึง 43,000 ล้านบาท

อีกรายที่น่าสนใจ คีรี กาญจนภาสน์ หนึางในมหาเศรกำลังมองหาช่องทางในการเพิ่มมูลค่าเส้นทางรถไฟฟ้าบีทีเอสในกรุงเทพมหานครที่บุกเบิกมาเป็นเวลาถึง 30 ปี ภายในปีนี้ บริษัทบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ซึ่งมีนายคีรี กาญจนภาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัดเตรียมเปิดร้านค้าปลีกสะดวกซื้อมีชื่อว่า เทอร์เทิล บนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสในย่านสำคัญ ซึ่งให้บริการมากถึง 10 ล้านครัวเรือน

ยูโรมอนิเตอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยว่า ในปีนี้ คาดการณ์ว่าธุรกิจค้าปลีกร้านสะดวกซื้อในไทยจะขยายตัวอีก 5.4% มีมูลค่า 428,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เป็นการขยายตัวที่ลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับปี 2022 ที่ธุรกิจค้าปลีกร้านสะดวกซื้อในไทยพุ่งทะยานถึง 18% การขยายตัวของธุรกิจดังกล่าวในไทย ยังได้รับการประเมินว่าจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 5.5% ถึงปี 2025 หรือในปี 2568 สำหรับรายได้ส่วนใหญ่ของธุรกิจร้านสะดวกซื้อนั้น ราว 2 ใน 3 หรือ 67% มาจากสินค้ากลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม

ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ร้านสะดวกซื้อน้องใหม่ไหนก็ตาม คงจะต้องแข่งขันอย่างเข้มข้นกับราชาแห่งร้านสะดวกซื้ออย่างเซเว่น-อีแลฟเว่น บริษัทซีพี ออลล์ ประกาศชัดเจนว่าจะลงทุนสูงถึง 13,000 ล้านบาทในปีนี้ ในการขยายเครือข่ายกิจการรวมถึงการเปิดร้านเซเว่น-อีแลฟเว่น อีกอย่างน้อย 700 สาขา ในปีผ่านมานั้น บริษัทซีพี ออลล์ มีรายได้เติบโตถึง 22% ด้วยมูลค่าถึง 354,000 ล้านบาท ซึ่งมีอาหารและเครื่องดื่มคิดเป็นสัดส่วนมากถึง 74% ของยอดขายในภาพรวม