ศูนย์วิจัยไทยพาณิชย์ชี้ภาคท่องเที่ยว ยังเป็นฟันเฟืองหลักเดินเครื่องเศรษฐกิจ

278
0
Share:
ศูนย์วิจัย ไทยพาณิชย์ ชี้ภาค ท่องเที่ยว ยังเป็นฟันเฟืองหลักเดินเครื่อง เศรษฐกิจ

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) มองภาพรวมภาคการท่องเที่ยวในปี 66 มีแนวโน้มฟื้นตัวได้ดี ทั้งจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ และนักท่องเที่ยวชาวไทย โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติเร่งตัวแตะ 30 ล้านคน จากการประกาศเปิดประเทศในทันทีของจีนตั้งแต่ต้นปี 66 ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจีน กลับมาท่องเที่ยวในไทยเร็วขึ้น อีกทั้งนักท่องเที่ยวชาติอื่น ฟื้นตัวกลับมาใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 แล้ว โดยนักท่องเที่ยวหลัก ยังคงเป็นนักท่องเที่ยวจากอาเซียน และยุโรป

อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่จะส่งผลต่อการฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัว ค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยวยังอยู่ในระดับสูง จากต้นทุนด้านเชื้อเพลิง

ขณะที่นักท่องเที่ยวไทย มีแนวโน้มท่องเที่ยวในประเทศต่อเนื่อง และกลับมาอยู่ในระดับก่อนเกิดโควิด-19 ได้ในปีนี้ จากภาวะเศรษฐกิจไทยที่เริ่มดีขึ้นเป็นลำดับ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวไทย ออกเดินทางท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น แต่ยังมีปัจจัยกดดันจากที่นักท่องเที่ยวไทยเลือกออกเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศมากขึ้นเช่นเดียวกัน อีกทั้งในช่วงที่เหลือของปี อาจจะยังไม่มีนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวเพิ่มเติมหรือมีความล่าช้า

โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมฟื้นตัวได้ดีขึ้นตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่เร่งตัวขึ้น แต่ยังต้องพึ่งพิงรายได้จากนักท่องเที่ยวไทยเป็นหลักอยู่ เนื่องจากอัตราการเข้าพักมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ดีอย่างเห็นได้ชัด สาเหตุหลักมาจากระยะเวลาเข้าพักของนักท่องเที่ยวต่างชาติยาวนานขึ้น รวมถึงอุปทานห้องพักยังไม่กลับมาอยู่ในระดับก่อนเกิดโควิด-19 โดยธุรกิจโรงแรมบางส่วน ยังไม่เปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ เนื่องจากต้องใช้เงินทุนค่อนข้างสูงในการดำเนินกิจการ และนักท่องเที่ยวกลุ่มหลักเป็นกรุ๊ปทัวร์ชาวจีนที่ยังเดินทางเข้าไทยไม่มากนักในระยะแรก ขณะที่ราคาห้องพักเฉลี่ยเร่งตัวสูงขึ้น จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้าไทยกลุ่มแรก เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ ซึ่งจะเลือกพักโรงแรม 4-5 ดาวเป็นหลัก อีกทั้งธุรกิจโรงแรมมีการนำเสนอโปรโมชันด้านราคาเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ไม่มากเท่ากับช่วงการเปิดประเทศในระยะแรก

อย่างไรก็ดี แม้จะมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ดี แต่ธุรกิจโรงแรมยังต้องเผชิญกับความท้าทายหลายประการทั้งภาวะเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยที่มีทิศทางการเติบโตแบบชะลอตัว ซึ่งจะกระทบต่อความต้องการเดินทางท่องเที่ยว ต้นทุนที่สูงขึ้น ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน การแข่งขันที่สูงขึ้น และประเด็นด้าน ESG ที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในการดำเนินธุรกิจโรงแรม

ส่วนธุรกิจสายการบินสัญชาติไทยในปี 66 มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง และคาดว่าจะมีมูลค่าตลาดราว 2.6 แสนล้านบาท คิดเป็น 85% เมื่อเทียบกับปี 62 โดยรายได้ขนส่งผู้โดยสารในเส้นทางบินระหว่างประเทศ มีแนวโน้มเติบโตมากกว่าเท่าตัวจาก Pent-up demand ของการเดินทางระหว่างประเทศ หลังจากปัญหาโควิด-19 คลี่คลายลง

ส่วนรายได้ขนส่งผู้โดยสารเส้นทางบินในประเทศ มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง จนมีมูลค่าใกล้เคียงกับก่อนวิกฤตโควิด-19 แล้ว โดยนักท่องเที่ยวภายในประเทศ (ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจาก 224 ล้านคนเป็น 287 ล้านคน โดยเฉพาะจากการเข้ามาของชาวต่างชาติ ประกอบกับอัตราค่าโดยสารยังอยู่ในระดับค่อนข้างสูง ภายหลังจากสายการบินเก็บค่า Fuel surcharge ในเส้นทางบินในประเทศ แต่รายได้ขนส่งสินค้ามีแนวโน้มลดลง

SCB EIC ประเมินว่า ภาคการท่องเที่ยวมีแนวโน้มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมและธุรกิจการบินฟื้นตัวกลับไปใกล้เคียงช่วงก่อนโควิด-19 ได้ในช่วงปลายปี 67 เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวโดยรวม มีแนวโน้มฟื้นตัวได้ดีต่อเนื่อง นักท่องเที่ยวต่างชาติจะกลับมาอยู่ในระดับก่อนเกิดโควิด-19 ได้ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 67 จากความต้องการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่ยังอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่จะเร่งตัวขึ้น

อย่างไรก็ดี ธุรกิจโรงแรมยังต้องเผชิญกับการแข่งขันที่สูงขึ้น ส่วนธุรกิจสายการบินโดยภาพรวมจะกลับมาอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปี 62 แล้วในช่วงปลายปี 67 โดยเส้นทางในประเทศจะฟื้นตัวก่อนในปี 66-67 ส่วนเส้นทางระหว่างประเทศจะฟื้นตัวตามมา