สต๊อกทองคำปรับเพิ่มขึ้น 200-300% หลังประชาชนเดินทางมาทยอยขายอย่างต่อเนื่อง

นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด ผู้ประกอบการร้านทองแม่ทองสุกเปิดเผยว่า แนวโน้มราคาทองคำที่เป็นขาขึ้น ประกอบกับการตื่นตระหนกของประชาชนจากกระแสข่าวปิดร้านทอง ส่งผลให้คนยังเดินทางมาต่อแถวเพื่อรอขายทองคำกันอย่างคับคั่ง ทำให้ภาวะการเงินของร้านทองตึงตัว อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าร้านค้าทองคำยังเปิดให้บริการปกติ
.
ด้วยภาวะการเงินที่ตึงตัว ทำให้เมื่อลูกค้าเอาทองคำมาขาย อาจจะจ่ายช้าไป 1-2 วัน แต่หากรายย่อยที่ขายเพียง 1-2 บาท ยังได้รับเป็นเงินสดหมด แต่ถ้าขายครั้งละ 5-10 กิโลกรัม หรือทีละเยอะ ๆ อาจจะได้รับเงินช้าหน่อย สำหรับร้านทองแม่ทองสุก ประชาชนที่ซื้อขายต่ำกว่า 2 ล้านบาท จะได้รับการจ่ายคืนเป็นเงินสดหมด
.
แต่ยอมรับว่าปรากฏการณ์คนต่อแถวรอขายทองคำส่งผลให้สต๊อกทองคำของร้านปรับขึ้นสูงถึง 200-300% หรือประมาณ 10 เท่า เนื่องจากร้านทองแม่ทองสุกมีสัดส่วนลูกค้ารายใหญ่ที่นำทองคำออกมาขายมากกว่ารายย่อย โดยนำทองคำออกมาขายครั้งละหลายสิบกิโลกรัม คิดเป็นมูลค่าหลายร้อยล้านบาทต่อวัน นอกจากนี้ยังมีร้านค้าทองคำขนาดเล็กที่นำทองคำมาขายกับแม่ทองสุกประมาณ 100 รายต่อวัน
.
ส่วนวิธีการบริหารสภาพคล่องในภาวะเช่นนี้ ส่วนหนึ่งต้องใช้เครดิตจากธนาคาร โดยปกติร้านค้าทองคำทุกรายจะมีเครดิตจากธนาคารและเงินสดของร้านเพื่อบริหารสภาพคล่อง แต่ในภาวะเช่นนี้เงินสดของตนเองอาจไม่สามารถบริหารสภาพคล่องได้เพียงพอ
.
นอกจากนี้จะพยายามส่งออกเมื่อมีสายการบิน แต่ช่วงนี้จะส่งออกได้ 7 วันต่อครั้ง สภาพคล่องจึงหายไป จึงขอจ่ายลูกค้าเป็นเช็ค 2 วันบ้าง 3 วันบ้างเท่านั้นเอง แต่ไม่ได้หมายความว่าร้านทองจะเจ๊ง
.
ด้านนายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำกล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำมีโอกาสปรับสูงขึ้นอีก นักลงทุนจึงไม่จำเป็นต้องนำทองคำออกมาขายภายในครั้งเดียว เนื่องจากการส่งออกไปยังต่างประเทศยังทำได้ลำบาก ส่งผลให้ส่วนต่างรับซื้อและขายออก (สเปรด) ทองคำอยู่ในระดับไม่ปกติ หากนักลงทุนนำออกมาขายในช่วงนี้จะเสียเปรียบจากค่าใช้จ่ายในการส่งออกที่เพิ่มขึ้น
.
ส่วนของแนวโน้มราคาทองคำในระยะถัดไป หลังจากกองทุนทองคำ SPDR ยังทยอยเข้าซื้อทองคำในประเทศต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นเดือน เม.ย.ถึงปัจจุบัน รวมมูลค่าซื้อสะสมประมาณ 1,041 ตัน อีกทั้งในภาวะที่ตลาดหุ้นปรับตัวลง และราคาน้ำมันยังมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ส่งผลให้ทองคำยังเป็นสินทรัพย์มั่นคงที่ยังน่าสะสม
.
นอกจากนี้ประเมินราคาทองคำต่างประเทศมีโอกาสปรับขึ้นไปทำจุดสูงสุด อีกครั้งที่ 1,800 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่ราคาทองในประเทศคาดว่าจะทำจุดสูงสุดที่ 27,100 บาท/บาททองคำ