สธ.ชี้แจงเคส’พนักงานโรงแรม’กลุ่มเสี่ยงโอไมครอน มีผลตรวจเชื้อรอบ 2 เป็นลบ

414
0
Share:
โควิด
นพ.จักรรัฐ วงศ์พิทยาอานนท์ ผอ.กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงผลการสอบสวนโรคผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิคว่าผู้ป่วยรายแรก เป็นชายชาวอเมริกันอายุ 35 ปี เดินทางมาประเทศไทยคนเดียว ซึ่งบนเครื่องบินได้นั่งริมหน้าต่าง มีการเว้นเบาะจากคนอื่น ทำให้ไม่มีผู้สัมผัสใกล้ชิด ซึ่งปัจจุบันชายอเมริกันรายดังกล่าวไม่มีอาการ โดยอยู่ระหว่างการดูแลในสถานพยาบาล และต้องกักตัวต่อจนครบ 14 วัน นับตั้งแต่วันที่เดินทางมาถึงประเทศไทยคือวันที่ 30 พ.ย. ส่วนวันที่เหลือจะติดตามสอบถามอาการทุกวัน
 
สำหรับโรงแรมที่เข้าพัก ได้มีการสัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงต่ำจำนวน 17 ราย เนื่องจากสวมหน้ากากตลอดเวลา และได้ส่งตรวจหาเชื้อ พบผลเป็นลบ 16 ราย และพนักงานสนามบิน 2 ราย ที่ความเสี่ยงต่ำได้มีผลตรวจเป็นลบ ส่วนอีก 1 ราย ก่อนสอบสวนได้เดินทางไป จ.อุบลราชธานี จึงติดตามเก็บตัวอย่างตรวจเพิ่มเติมที่สถาบันบันราศนราดูร และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ 
 
ซึ่งผู้สัมผัสใกล้ชิด 1 ราย ได้เดินทางไปจ.อุบลราชธานี เป็นพนักงานเสิร์ฟอาหารในโรงแรม อายุ 44 ปี ไม่มีโรคประจำตัว ฉีดวัคซีนแอสตร้าฯ ครบโดส ซึ่งช่วงวันที่ 29-30 พ.ย. หยุดอยู่บ้าน และมีไปตลาดหน้าปากซอยเล็กน้อย
 
วันที่ 1 ธ.ค.ไปเสิร์ฟอาหารให้ชายรายดังกล่าว และนำเอกสารให้เซ็นเข้าโรงแรม ใส่หน้ากากอนามัยทั้งคู่ ออกจากห้องพักมีการทำความสะอาดอุปกรณ์
 
วันที่ 2 ธ.ค. ทำงานด้านเอกสารที่โรงแรม 2-3 ชั่วโมง
 
วันที่ 3 ธ.ค.เดินทางกลับบ้านด้วยรถยนต์ส่วนตัวพร้อมครอบครัว 5 คน แวะรับญาติที่โคราช 1 ราย กลับถึงบ้านที่อุบลราชธานี มีการรับประทานอาหารร่วมกัน แวะตลาดแถวบ้าน แต่ยืนยันว่าสวมหน้ากากอนามัยตลอดช่วงเดินทาง
 
วันที่ 4 ธ.ค.อยู่บ้านตลอดเวลา และได้รับแจ้งจากทีมสอบสวนโรคว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อ จึงรับตัวรายนี้มารักษาที่สถาบันบำราศนราดูร
 
วันที่ 5 ธ.ค.เก็บตัวอย่างมาตรวจ
 
วันที่ 6 ธ.ค. ผลการตรวจออกมาว่าสรุปไม่ได้ (Inconclusive) เพราะค่า CT เกิน 36 ทั้ง 2 ยีน จึงทำการตรวจซ้ำ ผลเพิ่งออกเมื่อช่วงเที่ยง ผล RT-PCR ยืนยันเป็นลบ ไม่เจอเชื้อ โดยจะตรวจซ้ำอีกครั้งในวันที่ 12-13นี้ เพื่อยืนยันอีกครั้งก่อนครบ 14 วันของการกักตัว
.
ทั้งนี้ยังไม่พบผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยชาวอเมริกันที่ติดเชื้อโอมิครอน แต่จะตรวจหาเชื้อซ้ำทั้ง 17 คนอีกครั้ง เพื่อยืนยันก่อนครบเวลากักตัว ซึ่งพนักงานเสิร์ฟรายดังกล่าว ได้เจอนักท่องเที่ยวเพียงครั้งเดียว 5-10 นาที สวมหน้ากากตลอดเวลา ถ้าติดเชื้ออาจเกิดจากการติดเชื้อในประเทศจากส่วนอื่นมากกว่า
.
ซึ่งทางทีมสอบสวนโรคยังติดตามต่อเนื่องจะมีผู้สัมผัสติดเชื้อในการตรวจรอบ 2-3 ของแต่ละคน ต้องติดตามผู้เดินทางเข้าประเทศต่อเนื่อง เพราะเป็นไฮซีซั่นมีคนเดินทางมาก