สธ. ชี้ไทยเจอติดเชื้อโอไมครอนพันธุ์ย่อย BA.4 BA.5 แล้ว 181 ราย

439
0
Share:
โอไมครอน

นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่าในช่วงวันที่ 18-22 มิ.ย. 65 พบว่าโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น โดยพบทั้งหมด 181 ราย ทั้งนี้ ยังพบในผู้เดินทางมาจากต่างประเทศมากกว่าในประเทศ จากข้อมูลพบว่าความสามารถในการแพร่เชื้อเพิ่มขึ้น และหลบภูมิคุ้มกันได้มากขึ้น แต่ก็ยังไม่มีข้อมูลเพียงพอสำหรับความรุนแรงของโรค

“ในสัปดาห์นี้มีจำนวนตัวอย่างส่งตรวจมามาก จึงพบ BA.4 และ BA.5 เพิ่มจากสัปดาห์ก่อนมาก ซึ่งต้องดูแนวโน้มอีก 2-3 สัปดาห์ต่อเนื่อง ว่าแนวโน้มของไทยจริงๆ แล้วเป็นอย่างไร คนไข้อาการหนักจะถูกเฝ้าระวังเป็นพิเศษ โดยขอความร่วมมือกรมการแพทย์ โรงพยาบาล ถ้าคนไข้อาการหนักให้ส่งตัวอย่างมาตรวจหาสายพันธุ์ ทั้งนี้ ได้เห็นว่าจำนวนผู้ติดเชื้อโอไมครอน BA.4 และ BA.5 เพิ่มขึ้น แต่เป็นจำนวนไม่มาก จึงไม่อยากทำให้บรรยากาศของประเทศต้องเสียไป” นพ.ศุภกิจ กล่าว

ขณะนี้ต้องติดตามสถานการณ์ในประเทศว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป ตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าโอไมครอน BA.4 และ BA.5 จะแพร่ระบาดจนกลายเป็นโควิดระลอกใหม่ได้หรือไม่ เพราะทุกประเทศทั่วโลกมีการตรวจหาเชื้อลดลง ดังนั้น ตัวเลขที่รายงานเป็นทางการน่าจะต่ำกว่าสถานการณ์จริง ทั้งนี้ หากโรคไม่มีความรุนแรงเพิ่มขึ้นก็ไม่ส่งผลอะไร แต่หากโรคแพร่ระบาดเร็ว และมีความรุนแรงมากขึ้น ก็อาจต้องมีการทบทวนมาตรการ ซึ่งขณะนี้มาตรการของไทยยังใช้ได้อยู่ เพียงแต่ต้องเพิ่มการเฝ้าระวังที่เข้มงวดมากขึ้น

ปัจจุบันสายพันธุ์โอไมครอนเป็นสายพันธุ์หลักของการระบาดทั่วโลกและไทย ซึ่งองค์การอนามัยโลกได้จัดให้ BA.4 และ BA.5 เป็นสายพันธุ์ที่ต้องจับตาดู นอกจากนี้ยังมีอีก 4 ตัว คือ BA.2.12.1, BA.2.9.1, BA.2.11 และ BA.2.13 เนื่องจากโอไมครอนสายพันธุ์ย่อยทั้ง 6 ตัว มีการกลายพันธุ์ที่ตำแหน่ง L452R เช่นเดียวกับ B.1.617.2 หรือสายพันธุ์เดลตา ซึ่งความน่ากังวลคือเชื้ออาจลงปอดได้ สำหรับสถานการณ์ทั่วโลก ขณะนี้หลายประเทศพบการเพิ่มจำนวนของ BA.5 เพิ่มขึ้นใน 62 ประเทศ ส่วน BA.4 พบใน 58 ประเทศ และ BA.2.12.1 พบใน 69 ประเทศมีแนวโน้มลดลง ขณะนี้ทั่วโลกพบโอไมครอน BA.4 สะสม 14,655 ราย และ BA.5 สะสม 31,577 ราย ซึ่งทั้งสองตัวมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

ซึ่งอีกไม่นานเราคงจะพบการแพร่ระบาดของโอไมครอน BA.5 ทั่วโลกรวมทั้งไทย และในอนาคตก็อาจจะเจอ BA.4 เพิ่มขึ้นด้วย ถึงแม้จะมีบางข้อมูลระบุว่า BA.4 มีแนวโน้มลดลง แต่ก็ยังต้องจับตาว่าจะเป็นการลดลงชั่วคราวหรือไม่

ทางด้านอนามัยโลกได้ระบุว่า โอไมครอน BA.4 และ BA.5 มีการแพร่เร็วขึ้นเมื่อเทียบกับ BA.2 และที่สำคัญแอนติบอดีที่จะทำลายฤทธิ์ของเชื้อใช้ได้น้อยลง หรือทั้งสองตัวสามารถสู้แอนติบอดีได้ดีกว่า BA.2 นอกจากนี้ ยารักษายังตอบสนองน้อยลงด้วย ซึ่วมีผลการศึกษาว่า กลุ่มที่เคยติดเชื้อโอไมครอน BA.1 สามารถติดเชื้อ BA.4 และ BA.5 ซ้ำได้ โดยจากการทดสอบภูมิคุ้มกันพบว่า คนที่ไม่เคยได้รับวัคซีน ภูมิคุ้มกันจะลดลงประมาณ 7 เท่า ส่วนคนที่ได้รับวัคซีน ภูมิคุ้มกันจะลดลงประมาณ 3 เท่า แสดงให้เห็นว่าการฉีดวัคซีนยังคงมีความจำเป็นอยู่