สภาพัฒน์ชี้คนไทยเจนซีทั้งที่มีรายได้ต่ำ 10,000 แต่ใช้บริการสินเชื่อซื้อก่อนจ่ายทีหลัง

สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์ แถลงภาวะสังคมในหัวข้อพฤติกรรมและทัศนคติที่อาจเกิดความเสี่ยงกับการซื้อก่อนจ่ายทีหลัง หรือ Buy Now Pay Later (BNPL) ซึ่งสะท้อนถึงแนวโน้มการเข้าถึงสินเชื่อของเยาวชนมากขึ้นกับกลไกสินเชื่อการเงินในยุคปัจจุบัน

สภาพัฒน์ได้นำเสนอข้อมูลที่น่าสนใจ และสำคัญในหลายมิติ โดยกลุ่มเด็กหรือเยาวชนรุ่นใหม่ในเจนเนอเรชั่นซี(Z) ซึ่งหมายถึงเยาวชนที่เกิดหลังปี 2001-2024 หรือมีอายุระหว่าง 10-25 ปี พบว่า การใช้จ่ายเงินส่วนใหญ่เกิดขึ้นกับเสื้อผ้า และเครื่องประดับ สิ่งที่น่าสนใจ คือ กลุ่มเจนซีนี้ใช้บริการสินเชื่อการซื้อก่อนจ่ายทีหลัง หรือ BNPL มากถึง 36.7% ทั้งๆที่เยาวชนกลุ่มเจนซีมีรายได้เฉลี่ยต่ำกว่า 10,000 บาท

สภาพัฒน์ เปิดเผยต่อไปว่ากลุ่มเยาวชนเจนซีมีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการก่อหนี้สินที่เกินตัวในอนาคต โดยมี 4 พฤติกรรมความเสี่ยงของการใช้สินเชื่อแบบ BNPL ปประกอบด้วย อย่างแรก มากกว่าครึ่ง หรือเกินกว่า 50% ของเด็กวัยรุ่นหรือเจนซี(Z)ที่มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาท ใช้บริการสินเชื่อ BNPL และส่วนใหญ่ใช้จ่ายไปกับเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับ สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมเสี่ยงของเด็กรุ่นใหม่ที่อาจก่อหนี้เกินตัวในอนาคต

ถัดมา สินเชื่อการซื้อก่อนจ่ายทีหลัง หรือ BNPL ทำให้กระตุ้นการตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการได้ง่ายขึ้น ขณะที่ผู้ใช้สินเชื่อแบบ BNPL เป็นกลุ่มที่มีหนี้หลายประเภท โดยมากกว่า 3 ใน 5 หรือกว่า 60% ระบุว่าตัดสินใจซื้อสินค้าได้เร็วขึ้น หากมีบริการผ่อนชำระ อีกทั้งผู้ใช้บริการสินเชื่อ BNPL เกือบครึ่งหนึ่งมีภาระหนี้อยู่แล้ว ซึ่งไม่รวมหนี้ที่เกิดจากการใช้สินเชื่อ BNPL จึงอาจนำไปสู่ความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้และเกิดหนี้เสียในระยะถัดไป

ต่อมา ผู้ใช้บริการสินเชื่อ BNPL ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการจะซื้อของไม่จำเป็นมากขึ้นหากมีการผ่อนชำระ นอกจากนี้ ยังยอมรับด้วยกับการใช้จ่ายเพื่อให้รางวัลตนเองก่อนการตัดสินใจออมหรือลงทุน สะท้อนให้เห็นว่า บริการสินเชื่อ BNPL นี้ อาจทำให้ผู้ใช้บริการขาดวินัยการออมและการลงทุน

สุดท้าย ผู้ใช้บริการสินเชื่อแบบ BNPL ได้รับข้อมูลจากผู้ให้กู้ยืมยังไม่ครบถ้วน และต้องการการกำกับดูแลจากภาครัฐ ได้แก่ ข้อมูลเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย