สภาอุตฯ เตรียมเสนอ ครม.สัญจรกระบี่ หนุนกระท่อมเป็นพืชเศรษฐกิจอนาคต

สภาอุตฯ เตรียมเสนอ ครม.สัญจรกระบี่ หนุนกระท่อมเป็นพืชเศรษฐกิจอนาคต พาณิชย์ชี้ 9 เดือน ธุรกิจสมุนไพรไทยขอตั้งบริษัทใหม่เพิ่ม 70%

นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าวิเคราะห์แนวโน้มธุรกิจที่มีศักยภาพเป็นรายเดือน เพื่อกำหนดแนวทางพัฒนาและอำนวยความสะดวกให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมั่นคง

จากบทวิเคราะห์ธุรกิจประจำเดือนกันยายน 2564 พบว่า ‘ธุรกิจผลิตและแปรรูปผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร’ มีอัตราการเติบโตของธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดใน 9 เดือน ตั้งแต่มกราคม-กันยายน 2564 มีนิติบุคคลจัดตั้งใหม่จำนวน 117 ราย เพิ่มขึ้น 48 ราย เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2563 ที่มีจำนวน 69 ราย คิดเป็น 69.56% และในปี 2564 (9 เดือนแรก) มีทุนจดทะเบียน จำนวน 305.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2563 จำนวน 109.74 ล้านบาท คิดเป็น 56.04%

ทั้งนี้ ปัจจัยหลักที่สนับสนุนให้ธุรกิจเติบโตอย่างมีนัยสำคัญมาจากการตื่นตัวของผู้บริโภคที่นำสมุนไพรมาใช้เพื่อดูแลตนเองและบรรเทาอาการเจ็บป่วยในเบื้องต้น และเกี่ยวเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้การนำสมุนไพรไทยที่เป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน ซึ่งผ่านการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพได้ถูกนำมาใช้ร่วมในการรักษาสุขภาพและกลายเป็นธุรกิจใหม่ที่มาแรงในขณะนี้
โดยพบว่าการลงทุนในธุรกิจมาจากนักลงทุนสัญชาติไทยมากถึง 93.06% มูลค่า 6,205.30 ล้านบาท อีกทั้งจากการเพิ่มขึ้นของประชากรสูงวัยในประเทศไทยยังส่งผลให้การรักษาด้วยยาสมุนไพรเป็นทางเลือกสำคัญและได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นตามมาอีกด้วย

นอกจากนี้ รัฐบาลให้การสนับสนุนโดยเน้นการพัฒนาสมุนไพรไทยตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง ไปจนถึงการส่งออกวัตถุดิบสมุนไพรและตั้งเป้าเป็นตลาดชั้นนำในภูมิภาคอาเซียน ในปี 2564 มีมูลค่าการส่งออกเครื่องเทศและสมุนไพรไทย (มกราคม-สิงหาคม) จำนวน 6,288.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2563 ที่มีจำนวน 3,453.65 คิดเป็น 82.08% ดังนั้น จึงไม่ใช่แค่เพียงความท้าทายในการเติบโตของธุรกิจนี้ในประเทศเท่านั้น แต่ด้านการส่งออกก็ยังช่วยให้สมุนไพรไทยกลายเป็นที่นิยมกับผู้บริโภคต่างชาติได้เช่นกัน

ด้านนายศักดิ์ชัย อุ่นจิตติกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ประธานสถาบันอุตสาหกรรมเพื่อการเกษตร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้สภาอุตฯและภาคเอกชนในภาคใต้ กำลังรวบรวมปัญหาและข้อเสนอที่จะนำเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่จะนำคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประชุมสัญจรที่จังหวัดกระบี่ ช่วงวันที่ 15-16 พฤศจิกายนนี้ เบื้องต้นภาคเอกชนด้านเกษตรเตรียมนำเสนอแผนผลักดัน “กระท่อม” เป็นพืชเศรษฐกิจที่อยากให้รัฐสนับสนุนต่อไป ซึ่งกระท่อมเป็นพืชที่สามารถแปรรูปในเชิงสมุนไพร ที่สามารถแปรรูปเพื่อการบริโภค เป็นส่วนผสมในยา และผลิตภัณฑ์เพื่อใช้ทั่วไป ซึ่งหลายจังหวัดในภาคใต้ ถือเป็นแหล่งเพาะปลูกกระท่อม และสมุนไพรอีกหลายชนิด

“กัญชง กัญชา กระท่อม ถือเป็นพืชชนิดหนึ่งที่สามารถสร้างให้ท้องถิ่น ซึ่งภาคเกษตร ถือเป็นเครื่องจักรหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยได้ สำคัญไม่แพ้ภาคท่องเที่ยว ภาคส่งออก จึงอยากให้การประชุม ครม.สัญจร ครั้งนี้เป็นโมเดลต่อการส่งเสริมพืชเกษตรของไทย นอกจากพืชเศรษฐกิจ 5 ชนิดเดิม เพราะการที่รัฐให้การสนับสนุนจะเป็นส่วนผลักดันเกิดโครงการช่วยเหลือ และสถาบันการเงินช่วยเหลือด้านลงทุนและสภาพคล่อง” นายศักดิ์ชัยกล่าว