“สมคิด จาตุศรีพิทักษ์”สั่งคลังเร่งตั้งกองทุน 1 แสนล้านบาทช่วยผู้ประกอบการรายเล็ก

733
0
Share:

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมการทบทวนภาวะเศรษฐกิจ โดยมีผู้บริหารกระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า
ได้สั่งการให้คลัง วางรูปแบบในการจัดตั้งกองทุนขึ้นมาเพื่อใช้ดูแลช่วยเหลือผู้ประกอบการรายเล็ก ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ ให้ได้รับการดูแลช่วยเหลือเพื่อให้สามารถยังเดินหน้าธุรกิจได้
.
โดยได้มอบหมายให้ไปเร่งพิจารณาแนวทางในการดูแลช่วยเหลือบางอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แต่ยังมีความพยายามดูแลรักษาแรงงาน ไม่ปล่อยให้ตกงาน ว่าจะมีแนวทางในการช่วยเหลือให้อุตสาหกรรมยังสามารถคงการจ้างงานไว้ได้อย่างไรบ้าง โดยเรื่องนี้ต้องทำให้เสร็จก่อนเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 19 พ.ค. นี้
.
นอกจากนี้ ได้ให้ทุกหน่วยงานเร่งเตรียมโครงการเพื่อเสนอให้คณะกรรมการกลั่นกรองโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะกลางพิจารณา โดยย้ำว่าโครงการที่จะเสนอต้องเป็นโครงการที่เน้นทำให้เกิดการจ้างงานกับแรงงานในพื้นที่ สร้างรายได้ในท้องถิ่น
.
เบื้องต้นขนาดของกองทุนที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อดูแลผู้ประกอบการายเล็ก จะมีวงเงินไม่เกิน 1 แสนล้านบาท โดยจะใช้ส่วนหนึ่งจากงบฟื้นฟูเศรษฐกิจ 4 แสนล้านบาท ตาม พ.ร.ก. กู้เงินฉุกเฉิน 1 ล้านล้านบาท โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการออกแบบรูปแบบของกองทุน เงื่อนไข และแนวทางการปฏิบัติ ซึ่งจะพยายามดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด
.
โดยแนวทางกำลังพิจารณา อาจไม่ใช่การให้สินเชื่อเพิ่ม แต่หากพิจารณาแล้วสินเชื่อมีความจำเป็น จะเพิ่มให้อีกก็เป็นไปได้ โดยกองทุนนี้จะช่วยเฉพาะคนที่เข้าไม่ถึงแหล่งทุนในระบบ ส่วนผู้ประกอบการที่เข้าถึงแหล่งเงินในระบบก็ไปใช้ในสิ่งที่มีที่หน่วยงานได้จัดเตรียมไว้ให้
.
ส่วนแนวทางในการให้ความช่วยเหลืออุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และต้องการรักษาการจ้างงานไว้นั้น อาจจะรวมถึงอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและที่เกี่ยวข้อง ก็ต้องไปดูว่าจะช่วยอย่างไร เพื่อไม่ให้การจ้างงานถูกกระทบ กำลังดูกลไกที่จะเข้าไปช่วยเหลือ ส่วนธุรกิจสายการบิน ขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการพิจารณาร่วมกับสถาบันการเงินว่ามีอะไรที่จะช่วยได้ จะช่วยในรูปแบบไหน เงื่อนไขอย่างไร โดยการดำเนินการต้องเหมาะสม หลังจากที่ผู้ประกอบการสายการบินได้เคยมายื่นหนังสือไว้
.
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า รัฐบาลได้เร่งออกมาตรการช่วยเหลือและเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ครอบคลุมทุกกลุ่มแล้ว ทั้งกลุ่มประชาชน ผ่านระบบประกันสังคม และอาชีพอิสระ ผู้ประกอบการ เกษตรกร รวมแล้วว่า 35-36 ล้านคน จากแรงงานในประเทศทั้งหมด 38 ล้านคน ถือว่าเป็นการดูแลในระดับหนึ่งแล้ว
.
หลังจากนี้รัฐบาลต้องเตรียมความพร้อมในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งปัจจุบันยอมรับว่าภาพรวมเศรษฐกิจไทยปีนี้ติดลบแน่นอน แต่จะติดลบแค่ไหนวันนี้ยังคาดการณ์ได้ลำบาก เพราะได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตรงนี้เป็นข้อเท็จจริงที่ต้องยอมรับ เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว มีคนตกงานแล้ว โดยหวังว่าในช่วงไตรมาส 3-4 ของปีนี้หากสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น การค้าขายสามารถทำได้มากขึ้น การท่องเที่ยวเริ่มกระเตื้องขึ้น ก็จะเป็นปัจจัยบวกที่เข้ามาเสริม